“พิชัย”รับทัพนักธุรกิจสหรัฐ USABC ชวนตั้งฐานผลิตอุตสาหกรรมใหม่

“พิชัย“ ต้อนรับ ทัพนักธุรกิจรายใหญ่สหรัฐฯ USABC ชวนลงทุน-ตั้งฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ในไทย ย้ำ!ไทยกำลังฮอต พาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวกการค้า-ลงทุนเต็มที่

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมมโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 กระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน หรือ US-ASEAN Business Council (USABC) จำนวนกว่า 57 ราย จาก 30 บริษัท ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ การท่องเที่ยว อาหารและเกษตร พลังงาน เทคโนโลยี สารสนเทศ สุขภาพและการเงิน อาทิ บริษัท Amazon, Boeing, ExxonMobil, Citi, Google, Mastercard, Pfizer, Philip Morris, Seagate และ Tyson ที่นำโดยเอกอัครราชทูตเท็ด โอเซียส (Ambassador Ted Osius) เพื่อมาหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน แก้ปัญหาสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้าร่วมกัน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อธุรกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้า

 

นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้มีนักลงทุนจากสหรัฐอเมริกา-อาเซียน หรือ USABC เข้ามาพบตนที่กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากทราบดีว่าประเทศไทยจะมีการลงทุนไหลเข้ามามากโดยเฉพาะจากสหรัฐฯ อาทิ Western Digital และ Seagate จะมาขยายการลงทุน HP จะย้ายฐานการลงทุนมาไทย ก่อนหน้านี้ตนได้ไปประชุมทูตพานิชย์ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา ที่สหรัฐฯ ได้รับข้อมูลตรงกันคือ สหรัฐฯจะมีการลงทุนมาไทยเยอะ และตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสูงมากเป็นเลขสองหลัก ซึ่งน่าพอใจและเรายังมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นอีก

 

ประเทศไทยจะเป็น Investment Destination หรือ จุดหมายปลายทางของการลงทุนที่สหรัฐฯอยากจะมาลงทุน โดยในการหารือตนได้ขอให้ทางนักธุรกิจไปคุยกับรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องของ GSP (สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร) และเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่ประเทศไทยอยู่ในบัญชี Watch List (ประเทศที่ต้องจับตามอง) ซึ่งตนก็ได้หารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งท่านก็รับปากจะไปดำเนินการให้ และประเด็นที่ไทยได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯเยอะ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ทางสหรัฐฯมาตั้งฐานการผลิตที่ไทยแล้วส่งกลับไปที่สหรัฐฯ ทั้งจาก Western Digital และ Seagate  ขอให้ทางนักธุรกิจสหรัฐฯช่วยแจ้งไปยังท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทางไทยอยากได้รับการส่งเสริมเพราะไทยมีความเป็นมิตรกับทุกประเทศทั้ง สหรัฐฯ UAE จีน อินเดีย เรามีโอกาสที่จะได้รับการลงทุนจากหลายประเทศ ซึ่งจากที่ตนไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ที่สาธารณรัฐเปรู ทุกประเทศต่างบอกว่า ไทยจะเป็นศูนย์กลางการลงทุน PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) เราจะผลิต PCB มากที่สุดในโลก จะมีการโยกย้ายฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาเยอะมาก

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และจากนี้ตนจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้าเพื่อพบกับนักลงทุนและทางมหาวิทยาลัยโตเกียว (the University of Tokyo) ก็ได้เชิญตนไปบรรยายทิศทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งตนจะไปเชิญชวนนักลงทุน นักวิชาการ สมาคมการค้าต่างๆของญี่ปุ่น ให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการต้อนรับนักลงทุนจากทั่วโลก อยากเห็นญี่ปุ่นกลับมาเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งของไทยอีกครั้ง จะเชิญชวนให้มาลงทุนไทยมากขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่

 

รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ เรามีคนเก่งเยอะพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้กับนักธุรกิจเต็มที่และเราก็เร่งเจรจาเขตการค้าเสรีหรือ FTA ให้เรามี FTA มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ FTA ระหว่างไทยกับเอฟตาก็น่าจะจบได้ในเดือนมกราคมนี้ แล้วหลังจากนั้นจะตามมาด้วย อียู อาเซียน-แคนาดา ซึ่งมีโอกาสสำเร็จสูง และในเดือนพฤษภาคม ท่านรัฐมนตรีแคนาดาจะนำนักลงทุนจากแคนาดากว่า 100 คน มาเมืองไทย เพื่อหาช่องทางลงทุนในไทย

 

“ตอนนี้ประเทศไทยเรากำลังฮอต ตนได้พบกับท่านรองนายกฯคลัง (พิชัย ชุณหวชิร) ท่านเดินทางไปจีน มีบริษัทจีนอยากย้ายเข้ามาเมืองไทยเต็มไปหมด เรากำลังไปได้ดีประเทศไทยกลับมาฮอตใหม่เหมือนอย่างในอดีต ขอให้สภาวะนี้เป็นไปเรื่อยๆ ให้เราเจริญ รายได้ของประชาชนจะได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทำให้ประเทศเราเจริญต่อได้“นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

 

โดยองค์กร USABC เป็นองค์กรที่มีสมาชิกเป็นบริษัทชั้นนำสหรัฐฯที่เข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจกับประเทศในอาเซียน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน และสำนักงานสาขา 7 แห่งในนครนิวยอร์ก กรุงเทพฯ กรุงฮานอย กรุงจาการ์ตา กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา และสิงคโปร์ ทั้งในปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าลำดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯมีมูลค่า 67,659.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.65 ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 1 ของไทย โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 1.72 ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่า 55,681.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 9.84 ซึ่งไทยส่งออกไปสหรัฐฯมีมูลค่า 40,610.98 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 12.48 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องบิน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กองเรือยุทธการ ต้อนรับ ทัพเรือรัสเซีย
ผัวลูก ปะทะ ผัวแม่ มีดแทงกันเจ็บคู่
"ไอซ์ รักชนก" มาตามนัด ฟังคำวินิจฉัยศาลพิจารณาคำร้องขอถอนประกันตัวคดี 112
ส่องเลขเด็ด เหลือมยักษ์บุกบ้านนายทหารเรือยามดึก เชื่อนำพาโชค
กองปราบฯ เร่งส่งสำนวนคดี "แอม ไซยาไนด์" ที่เหลือ 14 คดีให้อัยการ
ทดสอบทหารใหม่ว่ายน้ำในทะเล สร้างความคุ้นชิน เป็นทหารเรือไทยต้องว่ายน้ำในทะเลได้
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมส่งต่อความอบอุ่น “หนาวนี้ทำดีเพื่อพ่อ” สภากาชาดไทย
‘ชัยชนะ’ พร้อมทำงานร่วมกับ ‘วาริน’ ว่าที่นายก อบจ.นครศรธรรมราช ชี้สื่อโซเชียลมีอิทธิพลต่อประชาชนในพื้นที่ ปัดข่าวพรรคประชาธิปัตย์โดนบางพรรครุมสกรัม เตรียมปรับกลยุทธ์เพราะยังขาดฐานเสียงคนรุ่นใหม่
สรส. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติ
"นายกฯ" ประชุมกพช. วอนดูราคาพลังงาน ช่วยปชช.ลดต้นทุนครัวเรือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น