“แม่บ้าน” ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง “แหม่มฝรั่งเศส” ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต

"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต

Top news รายงาน จากกรณี นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี หญิงนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี้ ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตนเสียชีวิตริมสระน้ำในวิลล่าหรู โดยก่อนเสียชีวิต นางแคทเทอร์รีน ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับ นางณัฐวลัย ภูพองตา หรือป่าติ๋ม อายุ 49 ปี ชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเป็นแม่บ้านคนสนิท ประกอบด้วย บ้านหรือวิลลาหรูพร้อมที่ดินมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลงซึ่งมีพื้นที่ติดกับวิลล่า มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ทรัพย์สิน เครื่องประดับ รวมถึงเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าที่ นางณัฐวลัย จะได้รับประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นางแคทเทอร์รีน น่าจะเกิดความเครียดหลังรับรู้ว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด (26 พ.ย.67) มีรายงานว่า พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ. สุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดำเนินคดี บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด, บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล และ นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย ในข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ

 

 

ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง( การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) และข้อหาเป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

นอกจากนี้ยังแจ้งข้อหา นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี ชาว ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  และ นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี ชาว ต.ท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ. นครศรีธรรมราช ฐานร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ โดย พ.ต.ท. ณัฐพงษ์ เตรียมนำสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐานไปมอบต่อพนักงานสอบสวน สภ.สมุย เพื่อให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายในช่วง 1-2 วันนี้

ด้าน พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ก่อนที่ นางแคทเทอร์รีน จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตริมสระน้ำในวิลล่าหรู ได้ทำพนัยกรรมยกทรัพย์สินให้กับ นางณัฐวลัย ซึ่งเป็นแม่บ้านคนสนิท รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับสังคม โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยต่างถกเถียงกันว่า ชาวต่างชาติสามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ทางผู้บังคับบัญชาจึงมอบหมายให้มีการสืบสวนสอบสวน

 

 

กระทั่งไปพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ ซึ่งเข้าข่ายความผิดในลักษณะของการเป็นตัวแทนอำพราง จากนั้นตำรวจได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจว่าสามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงเป็นที่มาของการเตรียมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด นอกจากนี้ยังสืบสวนพบว่า มีสำนักงานกฎหมายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยให้ความช่วยเหลือเรื่องการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลของชาวต่างด้าว ซึ่งจะมีการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้

 

สำหรับ นางแคทเทอร์รีน เป็นกรรมการบริษัท 2 บริษัท คือ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เม.ย.2555 วัตถุประสงค์ขณะจดทะเบียน คือ ประกอบกิจการให้เช่าที่พักรีสอร์ท บังกะโล และบ้านพักตากอากาศ และยังจดทะเบียน บริษัท แม็กชิเคท จำกัด เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2551 โดยวัตถุประสงค์ขณะจดทะเบียน คือ ประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์ โดยทั้ง 2 บริษัท นางแคทเทอร์รีน เป็นคนลงชื่อผูกพันบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงมีเหตุสงสัยว่า บริษัททั้ง 2 แห่งถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และมีการฝ่าผืนกฎหมายโดยการถือครองที่ดินไว้แทนคนต่างด้าวโดยมิชอบในลักษณะตัวแทนอำพราง หรือนอมินี ซึ่งอาจส่งผลให้ นางณัฐวลัย แม่บ้านคนสนิท ไม่ได้รับมรดกของ นางแคทเทอร์รีน เนื่องจากมีการทำนิติกรรมอำพราง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น