“จักรภพ” แจงวาทะร้อน ยันไม่ได้หมายถึงไม่ใส่ใจประชาชน หลัง “ไอซ์ รักชนก” โผล่คอมเมนต์เดือด
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพแบนเนอร์โควทคำพูดของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังไปออกรายการสัมภาษณ์สดตอนหนึ่งว่า “ถ้ามัวแต่เอาใจประชาชน โดยไม่สนใจผู้มีอำนาจเดิม ซึ่งไม่ได้สนใจประชาชนเท่าไหร่ พรรคเพื่อไทย จะสูญพันธุ์ไปก่อน” รวมถึงนายจักรภพก็ได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ในเฟสบุ๊กของตัวเอง ซึ่งทำให้นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน เข้ามาคอมเมนต์ในเฟสบุ๊กของนายจักรภาพว่า “ชัดเจนแบบนี้แหละดีแล้ว เลือกตั้งรอบหน้าก็พูดชัดๆไปเลย ปล.อย่าลบนะพี่ แคปเก็บไว้แล้ว”
ล่าสุดวันนี้ (28 พ.ย.) จักรภพ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า งานตัดต่อคำพูดยาวๆ ให้ลดเหลือเพียง 1-2 ประโยคของเนชั่นทีวีเมื่อวันก่อน ทำให้มีคนเข้าใจผิดผมมากอยู่ เพราะประโยคที่เหลือนั้นมีใจความว่า ถ้ามัวแต่เอาใจประชาชน ไม่เอาใจอำนาจเดิมบ้าง พรรคเพื่อไทยก็คงสูญพันธุ์ไปก่อน”คำพูดที่หั่นมาท่อนเดียวนี้ ฟังเผินๆ ก็ราวกับว่า 1.ผมคิดว่าเราไม่ควรใส่ใจในประชาชนมากนัก 2.ทำให้เข้าใจผิดในคำว่า อำนาจเดิม ซึ่งผมได้พูดไปในรายการแล้วด้วยว่า หมายถึงพรรคราชการและระบบราชการ ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดผลประโยชน์ในตัวเองที่แตกต่างไปจากผลประโยชน์แห่งชาติและประชาชน 3.พรรคเพื่อไทยควรจะมุ่งเอาใจอำนาจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประชาชนมากกว่า
นายจักรภพ ยืนยันว่า ถ้าผมคิดแบบนั้นจริง ผมก็บ้า ความจริงแล้วผมไม่ได้ไปออกรายการเพื่อพูด 2 ประโยคแล้วกลับบ้านเลยเมื่อไหร่ ในวันนั้นผมนั่งตอบคำถามอยู่ยาวถึงราว 34 นาที ประเด็นที่กำลังหยิบขึ้นมาตอนนั้นคือสมดุลแห่งอำนาจในสังคมไทย ในทำนองที่ว่าเราจะบริหารประเทศให้มีประสิทธิภาพและประชาชนได้รับประโยชน์จริงนั้น เราจำต้องตั้งตัวอยู่บนสมดุลอำนาจ เอียงข้างอย่างไรมิได้เลย ทั้งหมดนี้ผมได้รับอย่างเต็มที่จากประสบการณ์รวมกันของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ซึ่งก็นำมาแบ่งปันสั่งสอนกันอยู่ภายในบ้างแล้ว
นายจักรภพ ทิ้งท้ายว่า คนที่ไม่เห็นคุณค่าและความสำคัญของประชาชนจะมานั่งหน้าด้านเป็นนักการเมืองอยู่ไม่ได้หรอกครับ ควรจะออกไปอยู่บ้านให้สบายใจ เห็นแก่ตัวใส่มันเสียเลยก็ได้ การที่ยังอยู่ในกิจการส่วนรวมและพูดเช่นนี้ ก็มีหมายความเพียงว่า โปรดเลิกเล่นไร้เดียงสากันสักที เลิกโลกสวยจนเกินเหตุกันสักหน่อย หันมายอมรับให้ได้ว่าประเทศไทยเรานั้นยังอยู่ระดับไหนและจะต้องพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งไปถึงไหน ก็คนเราถ้าไม่เริ่มจากความจริงชนิดตีแสกหน้า มันก็เท่ากับใช้นโยบายหลอกลวงกันดื้อ ๆ ตั้งแต่ต้นนั่นล่ะครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น