ทนายเมีย-ลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดร้องไห้กลางศาล ขอเมตตาปล่อยตัว

ทนายภรรยา - ลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดร้องไห้กลางศาล ขอศาลเมตตาปล่อยตัว ยันติดต่อ “หมอบุญ” ไม่ได้

ทนายเมีย-ลูก “หมอบุญ” รับลูกความเครียดร้องไห้กลางศาล ขอเมตตาปล่อยตัว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

28 พ.ย. 67 นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน อายุ 51 ปี ภรรยาและบุตรสาวของนายแพทย์บุญ ผู้ต้องหา ในคดี “ร่วมกันข้อหาฉ้อโกง , สมคบกันฟอกเงิน และ พ.ร.บ.เช็ค” เปิดเผยหลังยื่นคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยทั้งสองคนว่า ตนเองได้แถลงต่อศาลว่าจําเลยทั้งคู่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานและพร้อมปฏิบัติตามคําสั่งศาลอย่างเคร่งครัด รวมถึงเหตุผลเดิมที่เรื่องของลายมือชื่อปลอมและปัญหาด้านสุขภาพ แต่ทางพนักงานสอบสวนให้เหตุผลในการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง สําหรับกรณีนี้ตนไม่อยากก้าวล่วงศาล ซึ่งทุกอย่างนําเสนอต่อศาลไปหมดแล้วขึ้นอยู่กับศาลจะเมตตา

ส่วนกรณีที่ลูกความทั้งสองมีอาการเครียดถึงกับร้องไห้ในห้องพิจารณา ทนายความ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติเพราะทั้งคู่เคยใช้ชีวิตอยู่แต่ภายนอกอีกทั้งมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยลูกสาวเป็นโรคซึมเศร้าตนไม่ขอพูดอะไรมากเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าโรคนี้หากพูดตอกยํ้าจะยิ่งทําให้แย่ลงได้ ในส่วนของแม่มีปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามหากศาลพิจารณาแล้วยกคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ทางทีมทนายและลูกความจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง


สําหรับเรื่องคดี ทางทนายความ ยืนยันว่า จําเลยทั้งสองยืนยันคําเดิมต่อหน้าศาลว่าไม่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องของการปลอมลายเซ็น โดยมีการนําเอกสารเก่ามาตรวจสอบพบเป็นการปลอมเซ็นอย่างแน่นอน ส่วนที่หลายคนมองว่าการกล่าวอ้างเรื่องการหย่าในครอบครัวเป็นการหย่าการเมืองหรือปลอม ๆ นั้น เป็นสิทธิของทุกคนที่จะคิดได้ ทั้งนี้ลูกความทั้งสองไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ขอเพียงของใช้ส่วนตัวเท่านั้น

 

ส่วนกรณีที่ “หมอบุญ” หลบหนีไปประเทศจีนนั้น ทนายความ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่ได้มีการติดต่อไปหาหมอบุญแต่อย่างใดเพราะตนไม่มีช่องทางและไม่ใช่ทนายความของ “หมอบุญ”

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ไม่ไปแจ้งความที่พื้นที่เกิดเหตุ ทนายความ ระบุว่า เพราะลูกความของตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพิ่งรู้ตอนมีการฟ้องร้องจากผู้เสียหายจํานวนมากจึงรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดเข้าแจ้งความกับ บก.ปอศ. ส่วนกรณีที่ตํารวจพิจารณาจะนําคดี “หมอบุญ” และพวกโอนไปให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นการกระบวนการทํางานของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับได้เพราะคาดว่ามีเส้นเงินเกี่ยวข้องถึงจําเลยทั้งสองนั้น ทางทนายความ ระบุว่า ตนไม่ทราบระเอียดทั้งหมดที่ทางพนักงานสอบสวนเสนอต่อศาลในการออกหมายจับ ดังนั้นจะต้องไปพิสูจน์กันต่อเพื่อยืนยันว่าลูกความถูกปลอมลายเซ็นจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สถาบันเหล็กฯ ออกแถลงการณ์ โต้ทนาย "ซินเคอหยวน" ยันเครื่องทดสอบเหล็กแม่นยำ ถูกต้องตามมาตรฐานทุกอย่าง
Watt-D แจ้งเตือน ระวัง "มิจฉาชีพ" แอบอ้างเป็นพนักงาน PEA หลอก Add LINE
ทั่วโลกร่วมไว้อาลัยโป๊ปฟรานซิส
“หมอปลาย” ทักแรง! ภาคอีสานระวัง “ภูเขาไฟ” ดับไปแล้ว กำลังจะตื่นอีก
“นาซา” เผยข้อมูลช็อก! แผ่นดินพม่าเคลื่อนตัว 6 เมตร จ่อปรับผังเมืองเนปิดอว์
ผวาชักศึกเข้าไทย! “พม่า KNU” เหิมหนัก โบกธงฉลองในแผ่นดินไทย
ปภ.จับมือ "3 ค่ายมือถือ" ทดสอบส่งข้อความเตือนภัย พ.ค.นี้
"นายกฯ" นำเปิดโครงการ "SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน" เน้นผลสำเร็จเริ่มจากยุคไทยรักไทย
เซเว่น อีเลฟเว่น ชวนคนไทยร่วมเปลี่ยนแปลงโลก ในวัน Earth Day 2025 ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ลดการใช้พลังงาน ในธีม“พลังของเรา โลกของเรา”เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ซีพีจับมือทุกภาคส่วน ปักหมุด ‘เกาะสุกร’ จ.ตรัง ลงนาม MOU สร้างโมเดลต้นแบบจัดการขยะยั่งยืน มุ่งต่อยอดสู่เครือข่ายสิ่งแวดล้อมภาคใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น