“ทนายความ” เข้าเยี่ยม “สามารถ” อัปเดตอาการหลังอดอาหาร พร้อมหารือหนทางการต่อสู้คดี

ทนายความนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช เข้าเยี่ยมลูกความ เพื่ออัปเดทอาการหลังอดอาหาร พร้อมหารือหนทางการสู้คดี ยันคดีฟอกเงินต้องไปดูที่ความผิดมูลฐาน หากความผิดมูลฐานชัดเจนก็สามารถดำเนินคดีฟอกเงินได้ แต่ในคดีดิไอคอนฯ ความผิดมูลฐานยังไม่มีการตัดสินเลย ดังนั้น จะแจ้งข้อหาการฟอกเงินไม่ได้

“ทนายความ” เข้าเยี่ยม “สามารถ” อัปเดตอาการหลังอดอาหาร พร้อมหารือหนทางการต่อสู้คดี – Top News รายงาน

ทนายความ

จากกรณีที่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน จากกรณีของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พ.ย.67 เนื่องด้วยศาลอาญา ยกคำร้องประกันตัวชั่วคราว ด้วยเหตุเกรงว่าจะมีการหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ต่อมานายสามารถ ได้ประกาศอดข้าวและน้ำระหว่างการกักโรคโควิด-19 เพื่อประท้วงสิทธิการประกันตัว ทำให้ในช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ย. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำส่งนายสามารถ ไปรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะมีอาการอ่อนเพลีย ความดันตกเล็กน้อย และมีความเครียดร่วม หลังอดอาหารนานหลายมื้อตั้งแต่ถูกจับกุม ซึ่งทนายของนายสามารถ ยืนยันว่า การอดข้าวประท้วงไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตนเอง แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกัน ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย.67 ที่ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ   ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมนายสามารถ ว่า ตนได้เข้าเยี่ยมตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้พบนายสามารถซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องเข็นวีลแชร์มาพบ โดยอาการยังคงเหมือนกับเมื่อวาน แต่วันนี้มีภาวะน้ำตาลตก หน้าซีด มีรอยช้ำบนเเขนจากการถูกเจาะรักษา และได้ทราบว่าแพทย์ต้องให้นายสามารถ คอยจิบน้ำหวานตลอด เพราะต้องป้องกันสภาวะช็อก แต่นายสามารถก็จิบได้เล็กน้อย ส่วนอาหารและน้ำ นายสามารถยังคงอดตามเจตนารมณ์อยู่ ทั้งนี้ ทางครอบครัวของนายสามารถ ได้พยายามบอกและขอให้นายสามารถกลับมากินอาหารให้ได้เหมือนเดิม เพราะยิ่งสุขภาพถดถอยก็ยิ่งทำให้การทำงานการสู้คดีนั้นยากยิ่งขึ้น และถ้าวิกฤติถึงเเก่ชีวิตก็ไม่เป็นผลดี และตนมองว่าการเรียกร้องความยุติธรรม ควรต้องมีชีวิตเหลืออยู่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่นายสามารถยังยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง ว่า ยอมตายในคุกถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าสิ่งที่นายสามารถทำ ไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง แต่ยังทำเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกันอีกด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ร.อ.ธีรศานต์ เผยอีกว่า ทางทนายความอยากให้นายสามารถ ได้ออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ที่เคยรักษาไว้ อาทิ รพ.พญาไท 3 แต่ทางราชทัณฑ์มีความเห็นว่านายสามารถ ควรกลับไปรักษาภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดังเดิม เพราะกลัวกระแสสื่อกดดัน

 

ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีนั้น ร.อ.ธีรศานต์ อธิบายว่า คดีฟอกเงินต้องไปดูที่ความผิดมูลฐาน หากความผิดมูลฐานชัดเจนก็สามารถดำเนินคดีฟอกเงินได้ แต่ในคดีดิไอคอนฯ ความผิดมูลฐานยังไม่มีการตัดสินเลย ดังนั้น จะแจ้งข้อหาการฟอกเงินไม่ได้ ส่วนที่ดีเอสไออ้างว่าเพราะเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่นั้น ก็เป็นเพียงคำให้การหรือคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น อีกทั้งที่ดีเอสไอมีการคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่านายสามารถจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งตนยืนยันว่านายสามารถไม่ได้เป็นการยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวการเงิน เจ้าหน้าที่มีการอายัดบัญชีธนาคารไว้หมดแล้ว นายสามารถไม่สามารถโอนเงินเข้า-ออกได้

ร.อ.ธีรศานต์ เผยต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการอ้างกันว่านายสามารถจะหลบหนีนั้น ตามบันทึกการจับกุม ที่ สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย มีการระบุว่า เป็นการมอบตัว แต่ดีเอสไอกลับไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล ว่า นายสามารถมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งการไปจังหวัดเชียงรายของสามารถ มีพยานภายในวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย มีอดีตข้าราชการ อดีตรอง ผบ.ตร. อดีต สส. ร่วมไปด้วย ที่พร้อมจะเป็นพยานให้ อีกทั้งวัดห้วยปลากั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ซึ่งหากนายสามารถ จะหลบหนีตนมองว่าจังหวัดเชียงรายคงไม่เหมาะสม เพราะมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนอย่างแน่นหนา ซึ่งวันดังกล่าวนายสามารถได้คุยกับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ทราบมีการออกหมายจับ และยังมีการระบุในคลิปเสียงว่าจะเดินทางไปมอบตัวอีกด้วย จึงไม่ใช่การมีพฤติกรรมหลบหนีแน่นอน

เมื่อถามว่าการเดินทางไปจังหวัดเชียงรายของนายสามารถ มีการแพลนล่วงหน้าไว้หรือไม่ และมีการจองตั๋วเครื่องบินอย่างไร ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ตนทราบล่วงหน้าประมาณ 3-4 วัน เพราะถูกเชิญไปด้วย แต่ไม่ได้ไปเพราะติดธุระ และวันที่ที่นายสามารถเดินทางก็คือช่วงเช้าของวันที่ 25 พ.ย.

เมื่อถามว่าการไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย มีใบอนุโมทนาบุญด้วยหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ประเด็นนี้ต้องดูเรื่องของเส้นเงิน แต่สิ่งที่สังคมกำลังพูดถึงคือเรื่องของการหลบหนี ซึ่งหากวันนั้นมีประชาชนหรือพระเห็นนายสามารถ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่านายสามารถ ไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และนายสามารถก็เคยเดินทางมาทำบุญที่วัดนี้แล้ว ส่วนเมื่อถามว่านายสามารถเคยมีการโอนเงินทำบุญกับวัดห้วยปลากั้งมาก่อนหรือไม่ ตนเองตอบไม่ได้ และต้องไปเทียบช่วงเวลาการโอนเงินก่อน

ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ส่วนประเด็นเรื่องเอกสารการกู้ยืมเงินและการทำบุญระหว่างมารดาของนายสามารถ และบอสพอล ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสตรวจพบภายในบ้านพักของนายสามารถ ระบุวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ว่านายสามารถและบอสพอลมีการคืนเงินที่ยืมกันชดใช้กันหมดแล้วนั้น ประเด็นนี้ตนมองว่าเอกสารดังกล่าวเป็นการที่ทางบอสพอลให้เซ็นเพื่อไม่ให้เป็นการฟ้องร้องทางแพ่งต่อกันระหว่างบอสพอลและนายสามารถ ส่วนประเด็นดังกล่าวทางดีเอสไอจะนำไปเป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน

เมื่อถามว่าการกู้ยืมเงิน-การทำบุญร่วมกันระหว่างแม่นายสามารถและบอสพอล เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2564 แต่ทำไมถึงมามีเอกสารจัดทำเมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ตนเองไม่ทราบว่าทำไม แต่ในกรณีแบบนี้ก็มีเยอะในกลุ่มเจ้าหนี้ลูกหนี้ ซึ่งหลายคนก็อาจจะมองและคิดแบบนั้น แต่ส่วนตนมองว่าเป็นการตัดอำนาจเรื่องของการฟ้องแพ่งระหว่างกัน

 

ทั้งนี้ ร.อ.ธีรศานต์ ยังบอกอีกว่า คดีฟอกเงิน มีเส้นเงินอยู่ 2.5 ล้านบาท แต่ความเสียหายที่ดีเอสไอตั้งไว้คือ 2,900 ล้านบาท ซึ่งหากดูปริมาณความเสียหายกับยอดเงินของฝั่งนายสามารถ เทียบกันไม่ได้เลย เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายฟอกเงิน คือ การรวบรวมเงินคืนผู้เสียหาย จึงมองว่าการทำคดีนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะมาวิ่งตามเงินเล็ก ๆ ทั้งที่เงินใหญ่ ๆ ก็มี ถึงเวลาหากคดีจบตัดสินจริง ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการเยียวยา นอกจากนี้ ภายในวันนี้จะมีทีมทนายอีกทีมไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดา เพื่อยื่นคำร้องอุทธรณ์ขอปล่อยตัวชั่วคราวนายสามารถ ซึ่งหลักฐานที่จะนำไปยื่น คือ หลักฐานที่นายสามารถมีการคุยโทรศัพท์กับ ผอ.กองคดีฟอกเงินทางอาญา (ดีเอสไอ) เป็นคลิปเสียงยืนยันไม่ได้หลบหนีและจะไปมอบตัว และอีกประการคือประวัติการรักษา ส่วนหลักทรัพย์ในครั้งนี้ที่ยื่นจะใช้เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมขอศาลติดกำไล EM

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สถาบันเหล็กฯ ออกแถลงการณ์ โต้ทนาย "ซินเคอหยวน" ยันเครื่องทดสอบเหล็กแม่นยำ ถูกต้องตามมาตรฐานทุกอย่าง
Watt-D แจ้งเตือน ระวัง "มิจฉาชีพ" แอบอ้างเป็นพนักงาน PEA หลอก Add LINE
ทั่วโลกร่วมไว้อาลัยโป๊ปฟรานซิส
“หมอปลาย” ทักแรง! ภาคอีสานระวัง “ภูเขาไฟ” ดับไปแล้ว กำลังจะตื่นอีก
“นาซา” เผยข้อมูลช็อก! แผ่นดินพม่าเคลื่อนตัว 6 เมตร จ่อปรับผังเมืองเนปิดอว์
ผวาชักศึกเข้าไทย! “พม่า KNU” เหิมหนัก โบกธงฉลองในแผ่นดินไทย
ปภ.จับมือ "3 ค่ายมือถือ" ทดสอบส่งข้อความเตือนภัย พ.ค.นี้
"นายกฯ" นำเปิดโครงการ "SML ส่งตรงโอกาสถึงชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน" เน้นผลสำเร็จเริ่มจากยุคไทยรักไทย
เซเว่น อีเลฟเว่น ชวนคนไทยร่วมเปลี่ยนแปลงโลก ในวัน Earth Day 2025 ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ลดการใช้พลังงาน ในธีม“พลังของเรา โลกของเรา”เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ซีพีจับมือทุกภาคส่วน ปักหมุด ‘เกาะสุกร’ จ.ตรัง ลงนาม MOU สร้างโมเดลต้นแบบจัดการขยะยั่งยืน มุ่งต่อยอดสู่เครือข่ายสิ่งแวดล้อมภาคใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น