วันที่27 ก.ย. 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์การลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่ได้ช่วยน้ำท่วม แค่ไปวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐ และสร้างภาระให้กับหน่วยงานในพื้นที่มากกว่า ชี้หลายหน่วยงานต้องทิ้งงานมาต้อนรับโดยระบุว่าไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้แทนของประชาชน ทั้งที่การลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะเป็นการลงไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนด้วยตนเอง และลงไปให้ความช่วยเหลือยามประชาชนเดือดร้อนหนัก
และการที่ ส.ส.ร่วมลงพื้นที่ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทั้ง ส.ส.ในพื้นที่หรือต่างพื้นที่ช่วยกันไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยไม่ได้มองว่าเป็นการวัดพลังกันภายในพรรค เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯจะลงพื้นที่จังหวัดใด ส.ส.ในพรรคทุกคนพร้อมที่จะลงไปให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว
“หมอชลน่านอย่าคิดเหมือนคนที่เป็นฝ่ายค้านและอย่าเหมาว่าพรรคการเมืองอื่นจะเหมือนกับพรรคเพื่อไทยที่นำเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นประเด็นการเมือง และขอให้หมอชลน่านคิดเหมือนคนที่เป็น ส.ส. เป็นผู้แทนของประชาชนที่จะต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา ทั้งนี้การลงพื้นที่ของนายกฯ ก็เหมือนกับการที่ ส.ส. ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งพรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นรัฐบาลมีนายกฯยิ่งลักษ์ ที่เคยลงพื้นที่น้ำท่วมเช่นเดียวกันก็น่าจะเข้าใจดี
ขณะเดียวกันประเทศเกิดวิกฤต และสถานการณ์น้ำท่วม ตนเองเห็นหลายพรรคการเมืองเริ่มลงพื้นที่แล้ว จึงขอแนะนำให้หมอชลน่านลงพื้นที่เพื่อช่วยประชาชนบ้าง อย่ามัวแต่มาจับผิดคนอื่น โจมตีคนอื่น เพื่อประโยชน์ทางการเมืองตนเอง จนลืมความเดือดร้อนของประชาชน แบบนี้ระวังประชาชนจะไม่เลือกเข้ามาอีก และหมดโอกาสที่จะลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนอีก
“เป็นถึงอดีตรมต.เป็นสส.มาหลายสมัย เป็นถึงรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เวลาพูดแต่ละเรื่อง ตกลงใช้สมองคิดก่อนพูดหรือเปล่า มีหัวไว้คั่นหูมากกว่าพูดอะไรมีแต่ตีกินการเมืองหาสาระอะไรไม่ได้เลย สติปัญญาอันเฉลียวฉลาด ที่เคยมีมาแต่ก่อนมันหายไปไหนหมด หรือคิดได้ทำได้แค่ทำตามบัญชาคำสั่งนายใหญ่ทางไกล ตัวตนที่แท้จริงของหมอชลน่านที่เคยถูกชมว่า เป็นดาวสภา หมดสภาพไม่เหลือหลอ ตนเป็นห่วงจริงๆ เหมือนที่คนอื่นเขาฝากบอกมาถึงหมอชลน่านว่า” ยิ่งนานวันไม่เพียงแต่จะเสียหมอ แต่นับวันจะกลายเป็นเสียหมาไปเรื่อยๆขึ้นทุกวันน่าสงสารจริงๆ”