“ไต๋เรือ-ลูกเรือ” เล่าวินาทีโดดน้ำหนีตาย เรือรบพม่ากราดยิงห่ากระสุนใส่ประมงไทยกระเจิงทั้งลำ ด้าน “ผบ.ทร.” ฉุนขาด! สั่งสอบด่วน หากพบรุกน่านน้ำไทยเตรียมเอาคืนแน่
ข่าวที่น่าสนใจ
เกิดเหตุระทึกยิงกันสนั่นน่านน้ำไทย กลางดึกคืนวันที่ 29 ต่อเนื่องเข้าวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง ได้รับแจ้งจากกลุ่มเรือประมงอวนดำ ว่า ขณะที่กลุ่มเรือประมงอวนดำกว่า 50 ลำ เปิดไฟและวางอวนล้อมอยู่ในน่านน้ำไทย ห่างจากเกาะพยาม ด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ได้ถูก 3 เรือรบทหารเมียนมา กราดยิงกระสุนเข้าใส่ และแล่นเรือเข้าหาเพื่อทำการยึดเรือประมงไทย กลุ่มเรือประมงไทยต่างตัดอวนดำทิ้ง และเร่งเครื่องหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต เพื่อวิ่งเข้าเกาะพยาม ที่มีเรือตรวจการณ์ไทยลอยลำอยู่ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงประสานงานให้ เรือ ต.274 และเรือ ต.993 เข้าทำการสกัดกั้น และให้การช่วยเหลือทันที
โดยเรือประมงไทย 2 ลำ คือ เรือดวงทวีผล333 และเรือ ส.เจริญชัย8 หนีเรือรบทหารเมียนมาไม่ทัน จำเป็นต้องสละเรือทิ้ง ไต๋เรือ และลูกเรือ กระโดดหนีตายลงทะเล ก่อนที่เรือประมงในกลุ่มฯ จะเข้าช่วยเหลือได้ทั้งหมด จากนั้นเรือรบทหารเมียนมา ได้ทำการยึดเรือ และชักลากกลับไปในน่านน้ำเมียนมา ฝั่งจังหวัดเกาะสอง
ส่วนเรือประมงอีกลำ คือ เรือ มหาลาภธนวัฒน์4 ถูกเรือรบทหารเมียนมา ลำที่ 3 เข้าไล่จับ และสาดกระสุนใส่ตัวเก๋ง ซึ่งเป็นห้องบังคับเรืออย่างหนัก ไต๋เรือ วัย 47 ปี อาศัยประสบการณ์บังคับเรือตีวงล้อม ฝ่าห่ากระสุนที่ถูกยิงใส่ราวสายฝน โดยตัวเองถูกยิงเฉียดกะโหลกศีรษะ เลือดอาบเต็มหน้า แต่กัดฟันหนีตายกลับเข้าเกาะมาได้ ก่อนที่ เรือ ต.274 เข้ารับตัวระหว่างทาง พร้อมลูกเรืออีกราย ที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกกระแสไฟฟ้าเรือ ชอร์ตเข้าที่มือ ขณะหนีหลบภัยลงห้องเครื่องใต้ท้องเรือ
ต่อมา เวลา 02.40 น. หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ พร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.ระนอง ได้รับการประสานให้มารับตัวผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง กระทั่งเวลา 03.30 น. เรือ ต.274 ได้เข้าเทียบฝั่งที่ท่าเรือน้ำลึก ก่อนอาสาสมัครกู้ภัย นำบอร์ดกระดานลงไปรับผู้บาดเจ็บรายแรก คือ ลูกเรือชาวเมียนมา ที่ถูกกระแสไฟฟ้าชอร์ต ขึ้นมาจากเรือตรวจการณ์ ส่วนอีกราย คือ นายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 47 ปี ไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์4 มีผ้าก๊อซม้วนพันรอบศีรษะ สามารถเดินเองได้ แต่เลือดแห้งกรัง เต็มใบหน้า
นายศรีเพ็ชร เล่าว่า ตนถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ พอโดนยิง ตนเองไม่กล้าเปิดแผลออกดู เพราะเลือดออกมาก พร้อมเปิดเผยว่า ขณะถูกไล่จับ เรือตนถูกเปิดฉากยิงเข้าใส่อย่างเดียว และยังมีเรือรบทหารเมียนมา อีก 2 ลำ ที่เข้าจับเรือประมงไทยทางด้านเหนือ มาทั้งหมดรวม 3 ลำ ตนทำงานอยู่ด้านใต้ มีเรือควบเข้ามา ทีแรกนึกว่าเรืออวนดำด้วยกัน ตนก็วิ่งเรื่อยๆ พอรู้ว่าเป็นเรือรบ ตนก็อัดเครื่องใส่หมดเลย ไม่ยอมให้มันเทียบ แล้วขับเรือหมุน มันก็ยังยิงเข้าใส่ดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งเป็นเรือรบขนาดเท่าเรือตรวจการณ์ไทย ขณะถูกไล่ยิง ตนไม่กล้าโผล่ศีรษะมาหน้าต่างเก๋ง เพราะคิดว่าหัวขาดแน่ มันยิงเข้าใส่อย่างเดียวเลย ยิงมาที่เก๋งเรือ ที่ตนบังคับเรือ
ต่อมาในช่วงเช้า กลุ่มเรือประมงอวนดำไทย ที่รอดจากการจับกุมมาได้ ยังคงจอดทอดสมอ ลอยลำ อยู่หน้าอ่าวใหญ่ ทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม ทุกลำยังคงเสียดายอวนดำ ที่ล้อมจับปลา ที่ต้องตัดทิ้งไป ในระหว่างหลบหนีเรือทหารเมียนมา ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนบาท
ล่าสุด พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า ต้องตรวจสอบจุดเกิดเหตุให้ชัดเจน และสอบถามทางเมียนมา ถึงสาเหตุการจับลูกเรือประมงทั้ง 31 คน อีกทั้งต้องดูว่า ระหว่างเกิดเหตุมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน เพราะจากที่ได้รับรายงาน เรือประมงถูกเรือตรวจการณ์เมียนมาไล่ยิง จึงได้ขอความช่วยเหลือ ก่อนกองทัพเรือส่งเรือออกไป
ทั้งนี้ กองทัพเรือจะตรวจสอบกรณีการใช้อาวุธ และอำนาจหน้าที่ของทางเมียนมา ว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และเรือประมงไทย ได้รุกล้ำเขตเข้าไปด้วยหรือไม่ หากพบว่าเมียนมาใช้อำนาจเกินขอบเขต ก็จะตอบโต้อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง