นับถอยหลัง 2 ปี “แหลมตะลุมพุก” ถูกตัดขาดกลายเป็นเกาะ-ชาวบ้านกราบวิงวอนยกเว้น EIA เร่งสร้างแนวกันคลื่นก่อนกลายเป็น “โฉนดทะเล”

นับถอยหลัง 2 ปี"แหลมตะลุมพุก"ถูกคลื่นชักกะเทาะตัดขาดกลายเป็นเกาะแห่งใหม่ของเมืองไทย ชาวบ้านกราบวิงวอนยกเว้น EIA.เร่งสร้างแนวกันคลื่นอย่างเร่งด่วนก่อนกลายเป็น"โฉนดทะเล"- เผยเป็นพื้นที่แนวชายฝั่ง 2 ตำบล”แหลมตะลุมพุก-ปากพนังฝั่งตะวันออกตกตกค้างจากโครงการสมัยรัฐบาล คสช.ที่มีการก่อสร้างแนวกันคลื่นไปหมดแล้วระหว่างปี 2558-2561

( 2 ธ.ค.) นายบุญโชค ขำปราง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยคลื่นยักษ์พัดกัดซาะตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทยทำให้บ้านเรือนพังเสียหาย สวนมะพร้าวและผลอาสินรวมทั้งที่ดินถูกคลื่นซัดกัดเซาะอย่างรุนแรง ต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงมรสุม ระหว่าง เดือนตุลาคมถึง เดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างแนวคันกันคลื่น ตลอดแนวชายฝั่งอำเภอพนังกว่า 20 กิโลเมตร ในสมัยรัฐบาล คสช. ยังเหลือพื้นที่ที่ยังไม่ได้ก่อสร้างแนวคันกันคลื่น ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออกและหมู่ 3 ตำบลแหลมตะลุมพุก รวมระยะทาง 8 กิโลเมตรเศษ เนื่องจาก การก่อสร้างตามระเบียบกฎหมายใหม่จะต้องรอการทำ EIA. ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 3- 5 ปี ชาวบ้าน ตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย หมู่บ้าน 2 ตำบลดังกล่าว จึงได้รับความเดือดร้อน อย่างเช่นสาหัสและคาดว่าบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรผลอา สินทั้งหมดที่เหลืออยู่รวมทั้งถนนที่เชื่อมระหว่างแหลมตะลุมพุกกับแผ่นดินใหญ่จะถูกคลื่นซัดกัดเซาะจนขาดกลายเป็นทะเลไปทั้งหมดภายใน 1-2 ปีเท่านั้น
นายปรีชา เสือแสง อายุ 68 ปีนางละอาย เสือแสง อายุ 63 ปี สองสามีภรรยา กล่าวว่า อยากวิงวอนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ ช่วยเรื่องการก่อสร้างแนวกันคลื่นโดยด่วน เนื่องจากในขณะนี้ตนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสเพราะถูกคลื่นลมแรง พัดกระหน่ำกัดเซาะตลอดแนวชายฝั่งบ้านเรือนพังเสียหายและถูกทะเลกลืนหายไป ปัจจุบันเหลืออยู่อาศัยอยู่เพียงหลังเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ต้องอพยพหลบหนีไปหาที่อยู่ใหม่โดยต้องถอยร่นไปสร้างบ้านเรือนหลังใหม่ในพื้นที่ที่เหลืออยู่และคาดว่าภายใน 1-2 ปี บ้านเรือน แต่บ้านเรือนที่ดินที่เหลือจะถูกทะเลกลืนหายไปทั้งหมด ครอบครัวของตนและเพื่อนบ้านอีกหลายครอบครัวคงจะไร้ที่อยู่อาศัยไร้ที่ทำกินอย่างแน่นอน

ในขณะที่นายสาธิต บุญศรี อายุ 60 ปี ชาวบ้านพื้นที่ หมู่ 6 ต.ปากพนังฝั่งตะวันออกอีกคน กล่าวว่า หากยังไม่มีการก่อสร้างแนวคันกันขึ้นภายใน 1-2 ปีนี้ นอกจากบ้านเรือนและที่ดิน จะถูกคลื่นชักกระเซาะหายไปกลายเป็นทะเลแน่นอน ชาวบ้านหลายรายที่อยู่อาศัยอยู่ยังได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพทำประมง สิ้นเนื้อประดาตัวอย่างแน่นอน
ด้านนางไพจิตร แก้วแหวน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 3 ตำบลแหลมตะลุมพุก กล่าวว่า ครอบครัวของตน พยายามเก็บหอม รวมคลรอมริบ อยู่หลายสิบปี จนสามารถสร้างบ้าน อยู่อาศัยจนสำเร็จเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาแต่ในขณะนี้ประสบปัญหาคลื่นยักษ์ซัดกัดเซาะจนมีแนวโน้มว่าอีกไม่นานที่ดินและบ้านเรือนของตนจะสูญหายไปในทะเลอย่างแน่นอน และล่าสุดบ้านของตนยังถูกพายุงวงช้างพัดถล่มช้ำจนได้รับความเสียหายยับเยิน ในขณะนี้ตนและเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งอยู่กันอย่างหวาด หากยังไม่มีการสร้างแนวคันกันขึ้นอย่าว่าแต่บ้านเรือนที่ดินเลยชีวิตก็อาจจะสังเวยหายไปในทะเลก็เป็นได้ จึงอยาก วิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งก่อสร้างแนวการกันคลื่นโดยด่วนที่สุด
ต่อมานายไอศวรรย์ สวนอินทร์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติงานสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานความเดือดร้อนของชาวบ้าน จึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและเดือดร้อนของประชาชน โดยมีนายบุญโชค ขำปราง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมพบปะชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนโดยจะเร่งนำเรื่องราวอุปสรรคปัญหาเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ติดต่อประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลเพื่อให้พิจารณา ยกเว้น การทำ EIA เพื่อให้สามารถก่อสร้างแนวการกันคลื่นให้แล้วเสร็จได้โดยเร็วต่อไป
ในขณะที่นายบุญโชค ขำปราง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก กล่าวว่า พื้นที่ตลอดแนวชายฝั่ง อ่าวไทยในอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่แหลมตะลุมพุก, ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก,ตำบลบางพระ,ตำบลท่าพระยา และตำบลขนาบนาค รวม 5 ตำบลระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตรประสบปัญหาคลื่นซัดกัดเซาะตลอดแนวมายาวนานกว่า 40 ปี จนพื้นที่ซึ่งชาวบ้านตั้งรกรากบ้านเรือนอยู่อาศัย ทำการเกษตร ประมง และอื่น ๆมาตังแต่บรรพบุรุษ ถูกคลื่นชัด กัดเซาะจนหายกลายไปเป็นทะเลลึกเข้ามา 500 เมตรบางจุดมากถึง ถึง 1 กิโลเมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ที่ไร้ที่อยู่อาศัยไร้พึ่งเนื่องจากพื้นที่กลายเป็น”โฉนดทะเล”ไปหมดแล้ว

จนกระทั่งปี 2557 ถึง 2558 สื่อมวลชนโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ได้นำเสนอข่าวความเดือดร้อนของชาวบ้านแบบเกาะติดต่อเนื่องจนรัฐบาล คสช. อนุมัติโครงการก่อสร้างแนวคันกันคลื่น ตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยในอำเภอปากพนัง ทำให้ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งหายไปที่อพยพหลบหนีไปก่อนหน้านี้สามารถกลับมาสร้างบ้านเรือนอาศัยทำกินในพื้นที่เดิมได้อย่างมีความสุข แต่ในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน 2 ตำคือหมู่ 3 ตำบลแหลมตะลุมพุกและหมู่ 6 ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออกรวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรเศษ เนื่องจากทางกรมทรัพยากร ฯ อ้างว่าเป็นที่ดินป่าสงวนป่าชายเลน จึงไม่สามารถก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามในระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบและพิสูจน์จนแน่ชัดว่าที่ดินดังกล่าวเป็นเป็นที่ดิน เอกสารสิทธิ์ ของชาวบ้านทั้งหมดของชาวบ้านทั้งหมด จึงมีการหยิกยกดำเนินการตามโครงการเดิมอีกครั้ง แต่ติดปัญหาที่กฎหมายใหม่จะต้องผ่านการทำ EIA ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 3-5 ปี จึงไม่ทันการกับปัญหาที่ประชาชนกำลังประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ และหากรอขั้นตอนการทำ EIA เชื่อว่าภายใน 1-2 ปี พื้นที่แนวชายฝั่ง 2 หมู่บ้านใน 2 ตำบลดังกล่าว จะถูกชื่นซัดกัดเซาะกลายเป็นทะเลไปทั้งหมด
“ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่าเขามีงบประมาณพร้อมรายการดำเนินการก่อสร้างทันทีแต่ติดปัญหาเรื่องการทำ EIA ตูนอยากให้คณะกรรมการฯ ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาดูปัญหาและอุปสรรคความเดือดร้อนของชาวบ้านใน พื้นที่จริง ซึ่งคาดว่าในปีนี้ทางคณะกรรมการ ฯเห็นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจริง ๆ และน่าจะมีความเมตตาพิจารณาอนุมัติให้มีการก่อสร้างโดยเร่งด่วนต่อไป และขอฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชให้ช่วยรายงานยืนยันเพิ่มเติมเรื่องข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง ในขณะนี้เหลือพื้นที่เพียง 50-60 เมตรที่คลื่นจะพัดกัดเซาะมาจนถึงถนนไปแหลมตะลุมพุก หากล่าช้าไม่เกิน 2 ปีพื้นที่จะถูกคลื่นซัดกัดเซาะตัดขาดตำบลแหลมตะลุมพุกจะกลายเป็นเกาะ ตัดขาดเส้นทางการจราจรทางบกไปตำบลแหลมตะลุมพุกไปโดยปริยาย ซึ่งจะเป็นปัญหามากมายจะตามมามากมายและต้องใช้งบประมาณอย่างมหาศาลในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อแหลมตะลุมพุกกับพื้นแผ่นดินใหญ่ อ.ปากพนังในอนาคต”.นายบุญโชค กล่าว

ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
2 ธ.ค.2567

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เท้ง ณัฐพงษ์" ชี้ดรามาน้ำท่วมใต้ "นายกฯ" ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ ขอสั่งการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ป้องกันซ้ำรอยแม่สาย
นายกฯ เคลื่อนไหว โพสต์โต้ดราม่า ปมถูกวิจารณ์ "สามีคนใต้"
"เคนโด้-อี้ แทนคุณ" เปิดหลักฐานใหม่ จี้ DSI สอบ "สามารถ" โยงเทวดาคนไหนบ้าง
โฆษกรัฐบาล ขอข้อมูลชัดเจนก่อน ใครล้ำใคร ปมเมียนมายิงถล่มเรือไทย ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
"กองทัพ" ชวนปชช.ร่วมชมพิธีสวนสนาม ถวายสัตย์ครั้งแรกในรัชกาลที่ 10
ช่วย 4 คนไทยพ้นขุมนรก แก๊งคอลฯของชาวจีนในฝั่งเขมร
MEA ร่วมจัดงาน IEEE PES Dinner Talk 2024 ขับเคลื่อนพลังงานไทยสู่อนาคต
จังหวัดศรีสะเกษ รณรงค์ กินแซ่บ อยู่ม่วน ลดโรคเรื้อรัง NCDs คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ
พิทักษ์สถาบัน ป้องกันอ่าวไทย สามัคคีรวมใจ ห่วงใยประชาชน
TSB ผงาดคว้า 2 รางวัลใหญ่ระดับเอเชีย จาก Enterprise Asia Awards 2024

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น