ผบช.ภ.2 เตือน! เครือข่ายรับจ้างเปิด บช.คอกม้า ติดคุกหัวโต 20 ปี สั่ง ตร.สืบภ.2 ปิดเส้นทางธรรมชาติตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา ตามนโยบายของรัฐบาลฯ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ภายหลังจาก “เดอะต่าย”พล.ต.อ.กิตดิรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้เร่ง จนท.ตร.สืบสวนทั่วประเทศ ติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนพื้นที่ตำรวจภูธรภาค2 พบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้บัญชีม้า โดยมีขบวนการ “คอกม้า” จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า ชักชวนให้ประชาชน ไปเปิดบัญชีม้า และบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล (ตริปโตเคอเรนซี) โดยจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท จากนั้นจะผู้รับจ้างเปิดบัญชีไปที่ชายแดนไทย-กัมพูชา (อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว) ก่อนจะพาตัวข้ามไปประเทศกัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติเขตตะเข็ปชายแดน
เพื่อสแกนหน้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนกว่าบัญชีจะถูกอายัดเงินจากผู้เสียหาย ทรัพย์สินที่ได้มาจากการเปิดบัญชีม้า จะถูกโอนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ยากต่อการติดตามเงินคืน

โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.2567 ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข กองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 2 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช.พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบซ.ภ.2
พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชารันท์ รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.สุวัฒน์ บริรักษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและ เครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.2 ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงผลการจับกุมแก๊งคอกม้า บช.ม้า รายใหญ่ ภายหลังจาก ระหว่างวันที่ 19-25 ต.ค.67 จนท.ตร.สืบสวนภ.2 ตร.สืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้บูรณาการสืบสวน จับกุม ผู้ต้องหา ขบวนการ “คอกม้า” จัดหา ”บัญชีม้า“ จำนวน 5 คน ที่รับจ้างไปเปิดบัญชีและยืนยันตัวคนที่ ห้างโรบินลันไลฟ์สไตล์ จ.ฉะเชิงเทรา และ ธนาคารใกล้เคียง เปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลครบแล้ว นำไปส่งที่หน้าห้างเดอะสตาร์ บริเวณหน้าด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีรถเก๋งมารับ ไปข้ามช่องทางธรรมชาติคลองน้ำใส ทางด้าน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ก่อน ผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า จะถูกนำตัวไปยังเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา อยู่ในออฟฟิตเป็นตึกแถว 3 ชั้น เพื่อให้สแกนใบหน้า จนบัญชีที่เปิดไว้ถูกอายัด จึงจะส่งตัวกลับประเทศไทย จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้สามารถออกหมายจับ คอกม้า 8 คน บัญชีม้า 5 คน

ผลการจับกุม ดอกม้า 2 คน บัญชีม้า 2 คน อายัดตัวในเรือนจำ 2 คน รวม 6 คน
อยู่ระหว่างติดตามจับกุมอีก 2 คน ผู้ต้องหา
1.น.ส.วริตราฯ (คอกม้า จัดหาคนเปิดบัญชีม้าและชิมม้า)
2.นายเสน่ห์ฯ (คอกม้า จัดหาคนเปิดบัญชีม้าและชิมม้า)
3.น.ส.สุกัญญาฯ (รับจ้างเปิดบัญชีม้าและชิมม้า)
4.นายขัยสิทธิ์ฯ (รับจ้างเปิดบัญชีม้าและชิมม้า)
5.นายอธิวัฒน์ฯ (รับจ้างเปิดบัญชีม้าและชิมม้า)
ธ.นายวรพันธ์ฯ (รับจ้างเปิดบัญชีม้าและซิมม้า)

จนท.ตร.ได้แจ้งข้อหา มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฟอกเงิน, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นช่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเดอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือน
จากการตรวจสอบบัญชีม้า 5 คน พบว่าเปิดบัญชีม้า 24 บัญชี มีเงินโอนเข้าจากผู้เสียหาย 133 ราย (ระหว่างวันที่ 10-25 ต.ค.67) ก่อนบัญชีม้าจะถูกอายัด พบเงินหมุนเวียนในบช. 31.222.399.60 บาท โอนออกไปยังบัญชีต่าง ๆ และบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโตเคอเรนซี่) รวม 24,518,580.78 บาทเป็นความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน* และ ฟอกเงิน” การกระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตราการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 10.11 (เป็นธุระจัดหาดอกม้า) มาตรา 9 (เปิดหรือยินยอมให้ใช้ซิมผี บัญชีม้า) มาตรา 25 (มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ) และร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นช่องโจร

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ กล่าวว่า ตำรวจภูธร 2 ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบถึงโทษของการเปิดซิมผี บัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันนี้มีการจ้างเปิดบัญชีม้า จนถึงสแกนหน้า ในราคา 20,000 บาท โดยอายุงานจะสั้นลง ถ้าถูกอายัดบัญชีธนาคารโดยเร็ว ปัจจุปัน จ.ฉะเชิงเทราเป็น จุดยุทธศาสตร์ของกลุ่ม คอกม้าและบัญชีม้า เพราะเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางไปชายแดนได้สะดวก มีห้างสรรพสินค้า มีธนาคาร เปิดซิมการ์ด ผู้ร่วมขบวนการเปิดบัญชีม้า จะโดน 5 เรื่อง เปิดบัญชีม้า ก็มีโทษจำคุก เมื่อมีเงินโอนเข้ามา ก็โดนข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน เป็นองค์กรอาชญากรข้ามชาติ อั้งยี่ ซ่องโจร ติดคุกหัวโตนานถึง 20 ปี และเวลาเดินข้ามแดนก็เสี่ยงอาจจะเหยียบระเบิดที่ฝังตามแนวชายแดนตายได้
ส่วนเรื่องการข้ามแดน ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ปิดเส้นทางเข้า-ออก ทางธรรมชาติช่องทางธรรมชาติตามตะเข็บชายแดน ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า ถ้ามีเบอร์โทรมา อ้างว่ามาจากธนาคารหรืออ้างว่าโทรมาจากสถานีตำรวจ เรื่องแบบนี้เป็นมุกเก่าของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องระวัง จะไปหลงเชื่อโดยเฉพาะ ในส่วนผู้สูงอายุ อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ ขอให้ลูกหลานญาติพี่น้องช่วยกันระวัง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนจับภาพ ‘จิ้งจอกคอร์แซก’ กลางทุ่งหิมะขาว
ไบเดนสั่งระดมส่งอาวุธครั้งใหญ่ให้ยูเครน
"ชาวหน้าถ้ำ-ยะลา" ระทม น้ำท่วมพ่นพิษ ทำรถยนต์-จยย.จมน้ำพังเสียหายกว่า 200 คัน
นายก อิ๋ง ใจดี เพิ่มเงินรางวัล นร. แข่งขันวาดภาพชิงเงินรางวัล "สันติภาพ ไร้ขีดจำกัด" Peace without Limits ของไลออนส์ 310 C
จีนประณามลิธัวเนียหลังสั่งขับนักการทูต
สาวหนีหมายจับ ย่องเยี่ยมผัวนอนอยู่ รพ. หลังต่อสู้ชักมีดฟันหัวผู้กอง เจอยิงสวนเจ็บปางตาย
"ศุภมาศ" เตรียมส่งอาหารพร้อมทานล็อตใหญ่ ช่วยน้ำท่วมใต้พรุ่งนี้
"กรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ" พระราชทานวโรกาส ให้ผู้บริหารท็อปนิวส์-อะราวด์เดอะเวิลด์ เข้าเฝ้าถวายรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ นำใช้สาธารณประโยชน์ แก่สภากาชาดไทย
“สุดารัตน์” ขนทีมทสท. ทัวร์อีสาน ปักหมุดสร้างการเมืองคุณภาพ เอาจริงขจัดทุจริตคนโกง
“พีระพันธุ์” สั่งการหน่วยงานใน ก.พลังงาน ช่วยเหลือน้ำท่วมใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น