“หอการค้าไทย” ชื่นชม พณ.ทำสำเร็จ เจรจาความตกลงค้าเสรี ไทย-EFTA ฉบับแรก เพิ่มศักยภาพส่งออกสู่ตลาดโลก

"หอการค้าไทย" ชื่นชม พณ.ทำสำเร็จ เจรจาความตกลงค้าเสรี ไทย-EFTA ฉบับแรก เพิ่มศักยภาพส่งออกสู่ตลาดโลก

“หอการค้าไทย” ชื่นชม พณ.ทำสำเร็จ เจรจาความตกลงค้าเสรี ไทย-EFTA ฉบับแรก เพิ่มศักยภาพส่งออกสู่ตลาดโลก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของรัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์ ในการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ซึ่งประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยความตกลงนี้ถือเป็น FTA ฉบับแรกระหว่างไทยและยุโรป ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเปิดโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย

 

 

FTA ไทย-EFTA ได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 หลังการเจรจาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปี โดยครอบคลุม 15 ประเด็นสำคัญ เช่น การค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน มาตรการสุขอนามัย และทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น ความตกลงนี้จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าหลัก เช่น อัญมณี อาหารทะเล และเครื่องจักร ซึ่งมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ส่งผลให้หลายบริษัทข้ามชาติพิจารณาย้ายฐานการผลิตมายังภูมิภาคที่มั่นคง FTA ฉบับนี้จึงไม่เพียงเปิดโอกาสทางการค้า แต่ยังช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าการลงนามความตกลงจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2568

 

ปัจจุบัน ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศและกลุ่มเศรษฐกิจอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 15 ฉบับ ครอบคลุม 19 ประเทศ สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการขยายตลาดการค้าและสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

 

 

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอร่วมชื่นชม ความสำเร็จครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่า FTA กับ EFTA จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทย พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในระดับโลก

ข้อมูลล่าสุดในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2567 การค้ารวมระหว่างไทยกับ EFTA คิดเป็น 2.03% ของการค้ารวมของไทยกับโลก โดยมีมูลค่าการส่งออก 3,787.97 ล้านดอลลาร์ และการนำเข้า 6,505.56 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตขึ้น 23.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณี อาหารทะเล ข้าว และเครื่องจักร ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย สัตว์น้ำสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเชื่อว่า ความตกลงครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนอย่างยั่งยืน และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยในอนาคต และมั่นใจว่าจะมีส่วนช่วยในการผลักดัน FTA ไทย-EU ให้สำเร็จภายในปี 2568-2569 อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ EU
ในช่วง ม.ค.-ต.ค. 67 ขยายตัวร้อยละ 3.42 จากช่วงเดียวกันของปี 66 โดยไทยส่งออกไป EU ขยายตัวร้อยละ 9.28 และไทยนำเข้าจาก EU ลดลงร้อยละ 2.99 โดยคาดการณ์ว่า หากไทยสามารถเจรจากับ EU ได้สำเร็จจะทำให้การค้าระหว่างไทยกับ EU ขยายตัวในระยะยาว โดย GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น 1.28% มูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 2.83% และการนำเข้าขยายตัว 2.81%

ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะ
ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้การเจรจา FTA
ไทย-EFTA สำเร็จลุล่วง และเชื่อมั่นว่า FTA ครั้งนี้จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สาวสุดผวา เล่าประสบการณ์ เรียกรถผ่านแอปฯ ถูกคนขับลวนลาม-เรียกเงินเพิ่ม
"กรมราชทัณฑ์" พาทัวร์เรือนจำกลางระยอง คุกซูเปอร์แม็กซ์ 1 ใน 5 ของไทย
นาทีระทึก "รถทัวร์" เสียหลักพุ่งชน "รถพ่วง" บริเวณขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา เจ็บเพียบ
ระบบหลัก 'ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์' รุ่นใหม่ของจีน ผ่านการตรวจรับแล้ว
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีโต้ซ้อมรบสหรัฐ-เกาหลีใต้
"ทนายความ ผกก.โจ้" แจงผลชันสูตรรอบ 2 ยังไม่ออก คาดอีก 2-3 สัปดาห์ชัดเจน
มติ ป.ป.ช. เอกฉันท์ ชี้มูล "เต้ มงคลกิตติ์" ผิดจริยธรรมร้ายแรง โพสต์ใส่ร้าย "ศักดิ์สยาม" อดีตรมว.คมนาคม
"รัฐมนตรี" แถลงยึดบุหรี่ไฟฟ้า ลอบนำเข้าจากจีนกว่า 200,000 ชิ้น
"แม่ฮ่องสอน" ผวา! "ทัพพม่า" ขนอาวุธหนักถล่มกะเหรี่ยง - ฐานที่มั่นคืนแตกอีก 1
ครอบครัวเคลื่อนร่าง ‘อดีตผกก.โจ้’ ไปวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ประกอบพิธีทางศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น