เปิดศึกผ้าเหลืองวัดดังเมืองคอนพระมหาแจ้งความดำเนินคดีเจ้าอาวาสทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสและขู่ฆ่าหมกภูเขา-ในขณะที่เจ้าเอาวาโต้ชี้แจงข้อเท็จจริงอ้างโดนพระมหา ฯใช้มีดพุ่งแทงจึงใช้ไม้เท้าข้อมือจนมีดหล่น เพื่อป้องกันตัวพร้อมให้ความร่วมมือเข้าพบพลังงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้(4 ธ.ค.)

(3 ธ.ค.) พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ศรีทอง ผกก.สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานรายงานวิทยุด่วนที่ 0023(นศ).(23)/91 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ถึง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชและผู้บังคับบัญชาทุกระดับจนถึง ผบ.ตร.กรณีเกิดเหตุอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ /เหตุน่าสนใจ โดยเกิดคดีทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส (แขนหัก) ผู้เสียหายคือพระมหาเอกชนะ เขียวกุ้ง อายุ 41 ปีภูมิลำเนาอยู่ 70 หมู่ 5 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ส่วนผู้ต้องหาคือพระครูสังฆกิจพิมล (ชณศักดิ์ นนทามิตร) เจ้าอาวาสวัดเขาปูน หมู่ 8 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช บริเวณที่เกิดเหตุ พระธาตุจดีย์ชัยมณีศรีฆโลก วัดเขาปูน หมู่ 8 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เวลา 18.40 น.ของวันที่ 1 ธันวาคม 2567 และรับแจ้งเหตุเวลา 18.40 น.ของวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผ่านมา
พระมหาเอกชนะ ฯ ผู้เสียหายให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเองเป็นพระธุดงค์ ได้มาขอพักอาศัยเพื่อปฏิบัติธรรมอยู่บริเวณพระธาตุเจดีย์ชัยมณีศรีฆโลก วัดขาปูน ที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังพูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมพระธาตุเจดีย์ชัยมณีศรีฆโลก ได้มีพระครูสังฆกิจพิมล เจ้าอาวาสวัดเขาปูน และพระภิกษุอีกรูปหนึ่งไม่ทราบชื่อสกุลจริง ได้ขึ้นมาพบพระมหาเอกชนะ ผู้เสียหาย บนพระธาตุเจดีย์ ฯ โดยพระครูสังฆกิจพิมล ได้ถือท่อนไม่มาด้วยและได้เรียกพระมหาเอกชนะฯ ผู้เสียหายออกมาพบและกล่าวหาว่าผู้เสียหายทำลายทรัพย์สินของวัดและลำโพงเครื่องเสียงของพระครูสังฆกิจพิมลได้รับความเสียหายจนเสียงไม่ดัง แต่พระมหาเอกชนะ ฯ ผู้เสียหายยืนยันไม่ได้ทำ และเมื่อไปตรวจสอบจึงพบว่าสายลำโพงหลุด ทำให้เสียงไม่ดัง พระมหาเอกชนะ บอกว่าจะขอต่อสายลำโพงให้ แต่ในขณะที่พระมหาเอกชนะ ผู้เสียหายกำลังต่อสายลำโพงอยู่นั้น พระครูสังฆกิจพิมล เจ้าอาวาส ได้ตรงเข้าไปใช้ท่อนไม้ตีที่บริเวณศีรษะของพระมหาเอกชนะ ผู้เสียหายอย่างแรง ในขณะที่พระมหาเอกชนะ ได้ยกมือซ้ายขึ้นปิดบังใบหน้าและศีรษะ จนเป็นเหตุให้กระดูกแขนข้างซ้ายหัก ส่วนท่อนไม้อาวุธที่ทำร้ายพระมหาเอกชนะ ก็หักเป็นสองท่อนเช่นเดียวกัน
หลังเกิดเหตุพระครูสังฆกิจพิมล ยังได้พูดจาข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ หากไม่เชื่อฟังจะ“ยิงให้ตายหมกภูเขา” เสียเลย หลังจากนั้นพระครูสังฆกิจพิม และพระอีกรูป 1 ที่มาด้วยกันเดินลงจากพระเจดีย์ ฯไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางพระมหาเอกชนะ จึงโทรศัพท์ไปหาบิดามาช่วยรับไปส่งโรงพยาบาลพรหมคีรี ซึ่งแพทย์ได้ เยียวยาช่วยเหลือและวินิจฉัยว่าข้างซ้ายหัก

พระมหา เอกชนะ ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.อ.จรัญ มาศเมฆ พนักงานสอบสวน สภ. พรหมคีรี โดยทางพนักงานสอบสวน จะมีหมายเรียกพระครู สังฆกิจพิมล เจ้าอาวาส มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้หมี่เรียกพระครูสังฆกิจพิมล เจ้าอาวาสวัดเขาปูนที่ถูกแจ้งโก้กล่าวว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาสอบสวนปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ในขณะที่พระครูสังฆกิจพิมล ได้ประสานนายความเพื่อเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในบ่ายของวันพรุ่งนี้(4 ธ.ค.) ซึ่งพระครูสังฆกิจพิมล ได้ให้ข้อมูลเหตุการณ์เบื้องต้นกับทนายความว่าพระมหาเอกชนะ เป็นพระสังกัดวัดแห่งหนึ่งแต่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการและมีสติสติสัมปชัญญะไม่อยู่กับร่องกับรอย จึงถูกไล่ออกจากวัดร่อนไปเรื่อย ๆ จึงมาขออาศัยที่พระธาตุเจดีย์ วัดเขาปูน อ้างว่าจะขอพักเพียงหนึ่งคืนแล้วจะออกจากวัดเขาปูนไป แต่หลังจากนั้นกลับไม่ยอมออกจากวัดและยังหรือคนทำลายข้าวของในกุฎิพระบนเชิงเขา เจ้าอาวาสพูดสอบถามและได้สั่งการผ่านเครื่องเสียงตามสายของวัด แต่ปรากฏว่าเสียงได้ขาดหายไป เจ้าอาวาสจึงพร้อมด้วยพระลูกวัดอีกรูปจึงเดินถือไม่เท้าขึ้นไปที่เจดีย์พระธาตุฯบนเชิงเขา เพื่อตรวจสอบและพบว่าพระมหาเอกชนะได้ถอดสายลำโพงออก

“จึงเกิดการเจรจาโต้เถียงกันขึ้น จนพระมาหาเอกชนะ ไม่พอใจและถือมีดอยู่ในมือตลอดเวลาก่อนจะพรุ่งเข้าไปจะแทงเจ้าอาวาส ๆ จึงใช้ไม้เท้าตีไปที่ข้อมูลเพื่อป้องกันตัวจนมีดหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยพระมหาเอกชนะ ยังมีอาการเหมือนคนคุ้มคลั่งได้พุ่งเข้าไปชกต่อยและล็อคคอเจ้าอาวาสเอาไว้ ในขณะที่เจ้า อาวาสพยายามดิ้นจนหลุดและรีบวิ่งหนีตายลงจากภูเขาทันที ก่อนที่พระมหาเอกชนะ จะติดต่อญาติให้มารับไปรักษาที่โรงพยาบาลพรหมคีรีและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส ในข้อหาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าอาวาส ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยจะเข้าพบพนักงานสอบสวนปากคำตามความเป็นจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันพรุ่งนี้(4 ธ.ค.)”

ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
3 ธ.ค.2567