Top news รายงาน เมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ (3 ธ.ค.67) ร้อยเอกธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช นักการเมือง และผู้ต้องหาคดี “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน” ได้เดินทางมาเยี่ยมนายสามารถ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมว่า เป็นวันแรกที่ญาติจะเข้ามาเยี่ยมนายสามารถได้ แต่วันนี้เกิดปัญหาเนื่องจากรายชื่อบุคคลที่เข้าเยี่ยมได้ที่นายสามารถ ส่งให้กับทางเรือนจำตั้งแต่เมื่อวานนี้ ปรากฏว่าชื่อยังไม่เข้าระบบ จึงทำให้พ่อของนายสามารถ ยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ในวันนี้ จึงได้แต่ฝากจดหมายผ่านตนเองไปให้นายสามารถ
โดยพ่อของนายสามารถ ได้ฝากความเป็นห่วง รอคอยที่นายสามารถจะได้ออกมาจากเรือนจำ รวมทั้งอยากให้นายสามารถ กลับมารับประทานอาหารดังเดิม ส่วนนายสามารถ เองก็ได้ฝากความเป็นห่วงเป็นใย เพราะเนื่องจากพ่อของนายสามารถ มีอายุเยอะถึง 70 กว่าปี และมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจ // สำหรับรายชื่อที่นายสามารถ ได้ส่งแจ้งแก่เรือนจำที่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ประกอบด้วย พ่อ แม่ และคนใกล้ชิดกับนายสามารถ รวม 3 คน แต่ไม่มีนักการเมืองในรายชื่อ ซึ่งในส่วนของแม่นายสามารถนั้น ตนเองไม่ทราบว่าจะประสงค์เข้าเยี่ยมเมื่อใด เพียงแต่แจ้งให้แม่นายสามารถ รับทราบว่า ชื่อยังไม่เข้าระบบ จึงยังเข้าเยี่ยมไม่ได้
ส่วนสภาพจิตใจของนายสามารถ ตอนนี้ ยังคงมีอาการเครียดที่ยังคงอยู่ข้างใน ร่างกายผอมลงกว่าเดิม มีอาการอ่อนเพลีย ถึงขนาดเวลานั่งหลังต้องพิงพนักตลอดเวลา ซึ่งนายสามารถ ยอมจิบน้ำแล้ว แต่เรื่องการรับประทานอาหารนั้น จากการที่ตนเอง และพ่อฝากมาย้ำเตือนให้นายสามารถ กลับมารับประทานอาหารดังเดิม สังเกตได้ว่านายสามารถ มีท่าทีที่อ่อนลง เงียบ และไม่ขัดขืนเหมือนช่วงแรก จึงทำให้เชื่อว่า หลังจากนี้นายสามารถ อาจจะกลับมารับประทานอาหารดังเดิม อย่างน้อยวันละ 1 มื้อก็ยังดี ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะจะได้มีแรงในการต่อสู้คดีเพื่อความยุติธรรมต่อไป เพราะนายสามารถ อดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน จนถึงวันนี้ ส่วนเรื่องจะถูกใครรังแกหรือไม่นั้น ยังไม่มีเรื่องดังกล่าว เพราะทางเรือนจำก็ดูแลค่อนข้างดี
สำหรับความคืบหน้าการทำคำให้การต่อสู้คดีนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอคัดเอกสารจาก DSI หากคัดเอกสารมาไม่ทัน ก็อาจจะต้องยืดขยายเวลายื่นคำให้การออกไปก่อน ซึ่งจะขยายเวลากี่วันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของ DSI ถ้าหากได้เอกสารเร็วขึ้น ก็จะทำคำให้การได้เร็วขึ้น โดยเอกสารที่ขอคัดกับทาง DSI นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารทางการเงิน ที่ DSI ได้ตรวจยึดไปตั้งแต่วันที่มาค้นบ้าน
ส่วนข้อต่อสู้ของนายสามารถ ก็ยังคงยืนยันในประเด็นเดิม คือ ข้อหามูลฐานที่ดำเนินคดีฟอกเงินยังไม่ชัดเจนว่า The iCon เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ นายสามารถ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ที่ไปจังหวัดเชียงราย คือไปทำบุญ มีพยานยืนยันและมีตั๋วเดินทางไปกลับชัดเจน นายสามารถ ไม่เคยยุ่งเหยิงกับหลักฐาน โดยเฉพาะเงินในบัญชีที่ถูกอายัดไปแล้วก็ไม่สามารถไปยุ่งได้ และนายสามารถ ไม่เคยสมคบที่จะฟอกเงิน หรือรับเงินบุคคลอื่นมา ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนตามที่ถูกกล่าวหา