เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานียังคงน่าเป็นห่วง น้ำจาก จ.ยะลาไหลมาสมทบในแม่น้ำปัตตานี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเมืองปัตตานียังคงมีการเอ่อล้นเข้าสู่หมู่บ้านที่ติดกับริมแม่น้ำ แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ริมแม่น้ำยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอยู่ต่อเนื่อง และยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเดิมได้
ข่าวที่น่าสนใจ
แม้ว่าระดับน้ำลดลง แต่ยังมีพื้นที่ที่ท่วมหนักที่สุด คือ อ.เมืองปัตตานี หมู่ 2 บ้านจางา บ้านยือโม๊ะ ตำบลปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี ซึ่งมีประชากรที่อาศัยกว่า 500 ครัวเรือน ที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนอยู่ น้ำยังท่วมสูง 1-2 เมตร ต้องใช้เรือเป็นยานหนะเดียวในการเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก รวมถึงที่นี่ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ อยู่ในความมืดมาเป็นเวลา 5วันแล้ว กลายเป็นหมู่บ้านที่ขาดการติดต่อไปเลย โดยทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จึงได้ส่งเครื่องชาร์จไฟโซล่าเซลล์ มาติดตั้งภายในหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนได้ชาร์จมือถือในการติดต่อคนภายนอก
ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถนนหลายสายเริ่มแห้งไปบ้างแล้ว หลายจุดรถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ ทั้งถนนยะรัง (หน้ามัสยิดกลางปัตตานี) ถนนหนองจิก (หน้าโรงพยาบาลปัตตานี) ถนนพิพิธ (ย่านเศรษฐกิจ) ส่วนที่ยังท่วมสูงคือจุดที่จะอยู่ฝั่งริมแม่น้ำปัตตานี ส่วนร้านสะดวกซื้อตามร้านต่างๆไม่ว่าสิ่งของบนชั้นว่างสินค้าหมดเกลี้ยงเกือบทุกพื้นที่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นข้าวอาหารสดและขนมปัง และวัตถุดิบต่างๆในการประกอบอหาร
นางนิซะ วานี ชาวบ้านปะกาฮารัง บอกว่า ที่บ้านถูกน้ำท่วมจมมิด เนื่องจากเป็นบ้านชั้นเดียว ข้าวของในบ้านถูกน้ำท่วมเสียหาย จนต้องย้ายออกมาอยู่บ้านญาติ สิ่งที่ต้องการที่สุดในตอนนี้ คืออาหารและน้ำดื่ม ตอนนี้ลำบากมาก น้ำไฟถูกตัดมาเป็นเวลา 5 วันแล้ว ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้ ถือว่าหนักสุดเท่าที่เคยเจอมา จนต้องทิ้งข้าวของ ทิ้งบ้านออกมาอาศัยอยู่กับญาติเป็นการชั่วคราว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
