“น้ำท่วมนราธิวาส” เริ่มคลี่คลาย น่าห่วงที่สุด “อำเภอตากใบ” ยังวิกฤต มวลน้ำป่าเอ่อ

"น้ำท่วมนราธิวาส" เริ่มคลี่คลาย น่าห่วงที่สุด "อำเภอตากใบ" ยังวิกฤต มวลน้ำป่าเอ่อ

Top news รายงาน วันที่ 4 ธ.ค.67 สถานการณ์น้ำท่วมในจ.นราธิวาส เริ่มคลี่คลาย แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีฝนตกลมาซ้ำอีกครั้ง หลังจากที่ฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลา 2 วัน แต่ไม่มีผลกระทบ ต่อสภาวะน้ำท่วมขัง พื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในภาพรวม ที่กำลังคลี่คลายและลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแม่น้ำโก-ลก ที่มวลน้ำป่ากำลังไหลระบายลงสู่ปากอ่าวทะเลด้านอำเภอตากใบ ล่าสุดพบว่าปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งและเข้าท่วมพื้นที่ 7 ชุมชน 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก มีปริมาณลดลงอยู่ในระดับเดียวกับตลิ่งแล้ว เหลือเพียงบ้านเรือนของประชาชนในบางจุดเท่านั้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ชาวบ้านบางส่วน เริ่มทยอยทำความสะอาดบ้าน ด้วยการเก็บกวาดเช็คถูคราบดินโคลนและสิ่งปฏิกูลที่เข้าไปในบ้านพัก รวมทั้งติดตามซอกหรือบริเวณน้ำ จากผลพวงที่ไหลมากับกระแสน้ำ และสิ่งปฏิกูลที่ติดบ้านของประชาชนในบางจุดเริ่มส่งกลิ่นเหม็น แถมยังเป็นอุปสรรคต่อเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้ในชุมชนต่างๆ เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโก-ลก จากสิ่งปฏิกูลไปอุดตันท่อของเครื่องสูบน้ำ

 

 

แต่สภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ที่น่าเป็นห่วง และยังถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ คือ ในพื้นที่ อำเภอตากใบ จำนวน 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำป่าที่กำลังไหลระบายลงสู่ปากอ่าว ที่ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขังในภาพรวมสูงโดยเฉลี่ย ประมาณ 1 เมตร

และมีชาวบ้านบางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในบ้านพัก โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ได้ช่วยกันทยอยนำเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม รวมทั้งยาเวชภัณฑ์ต่างๆ นำลงเรือฝ่ากระแสน้ำเดินทางไปให้การช่วยเหลือ ในการบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง

 

 

ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.นราธิวาส ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส แม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา สายบุรีและโก-ลก มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าตลิ่ง

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมขัง  13 อำเภอ มี 77 ตำบล 591 หมู่บ้าน 78 ชุมชน โดยสถานการณ์ปัจจุบันคงเหลือมีน้ำท่วมขังอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ ตากใบ สุไหงโก-ลก เจาะไอร้องและเมืองนราธิวาส มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 98,127 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย พื้นที่ทางการเกษตร เสียหาย 3,716 ไร่

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สภาวะน้ำท่วมขังในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของปีนี้ ซึ่งในทุกๆ ปีจะมีสภาวะน้ำท่วมขัง ประมาณ 3 ครั้ง หรือ 3 ระลอก ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ส่วนใหญ่ยังไม่นิ่งนอนใจ แม้ว่าน้ำจะลดลงหรือเกือบคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ยังเตรียมมือกับสภาวะน้ำท่วมในครั้งต่อไป.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เซเลนสกี" อกแตก "ทรัมป์-ปูติน"ส่งซิกหากัน
"บุญสงค์" ฟันไม่เลี้ยง แก๊งปลอมใบตรวจสุขภาพต่างด้าว
"มูลนิธิยังมีเรา" มอบเงิน 1 แสน บาท "มูลนิธิ สรส." สมทบทุนการศึกษา เด็กเรียนดีแต่ขาดโอกาส
ไฟไหม้สกีรีสอร์ตตุรกีนักท่องเที่ยวดับ 66 คน
อียู-จีนวิตกทรัมป์ถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงปารีส
นายกฯ หารือประธานผู้บริหาร DP World พัฒนาศก.ภาคใต้ ดันไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน
นายกฯ เดินซุปเปอร์มาร์เก็ตดาวอส ปลื้มอาหารไทยเป็นที่ต้องการ รบ.ลุยผลักดันส่งออก
"ชาวบ้านสีคิ้ว" สุดทน รวมตัวนับสิบคน ขับไล่เจ้าอาวาสวัด-ทำตัวกร่าง
“เต้ มงคลกิตติ์” แถลงขอโทษ “ศักดิ์สยาม” 15 วัน ฐานหมิ่นประมาท ปมโควิด-19
เปิดภาพหนุ่มหัวร้อน ขับเก๋งเบียด "จยย.ไรเดอร์" อัดเสาไฟฟ้า ดับสลด ตร.ตามรวบตัวสอบเข้ม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น