เปิดอีกมุม ปมเดือด “เจ้าของโรงงาน” ยืนยัน ไม่ได้ขู่ยิง บังคับ”ลูกจ้าง” เซ็นใบลาออก ทนายชี้ทำยอดขายไม่ถึงตามข้อตกลง
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว พาน.ส.ปัทมพร อดีตพนักงานขายอาหารสัตว์โรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับ นายจ้าง ซึ่งขู่บังคับให้เซ็นใบลาออกจากงาน อีกทั้งยังข่มขู่ว่าจะยิงทิ้ง จึงต้องเข้าแจ้งความเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.67) เพราะน.ส.ปัทมพร เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
น.ส.ปัทมพร เล่าว่า นายจ้างมีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกายลูกน้องและพูดจาข่มขู่ โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเข้าไปประชุมที่โรงงานตามปกติ จากนั้นเจ้าของโรงงานบอกให้ตนลาออก แต่ตนไม่ยอมเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นายจ้างยังบังคับให้เซ็นใบลาออกเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย 3 เดือน จากนั้นนายจ้างเรียกเข้าไปคุยตั้งแต่เวลา 12.40 น.-16.00 น. แต่ตนก็ยังไม่ยอมเซ็นใบลาออก
น.ส.ปัทมพร กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนลาออกเรียบร้อยแล้ว เพราะภรรยานายจ้างบังคับให้ลาออก โดยถ่ายคลิปวิดีโอแล้วบอกว่าตนเต็มใจลาออกเอง ตอนนั้นต้องยอมให้ภรรยานายจ้างถ่ายคลิปทั้งน้ำตา และที่ยอมเซ็นใบลาออกเพราะอยากเอาตัวเองออกไปจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ว่าถ้าอยู่ต่อแล้วจะโดนอะไรบ้าง
ทั้งนี้อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายจ้างในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง และขู่ฆ่า เพราะตอนตนกลัวเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะตนเลี้ยงลูกคนเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ทั้งนี้หลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนบอกตนว่าจะออกหมายเรียกนายจ้าง มาสอบปากคำ หากพบว่านายจ้างกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ล่าสุด (5 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี โดยพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีระบุว่า นายจ้างที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีอาศัยอยู่ที่จังหวัดอื่น โดยวันพรุ่งนี้จะออกหมายเรียกนายจ้างรายดังกล่าวให้มารับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ น.ส.ปัทมพร เตรียมเดินทางเข้าร้องเรียนต่อแรงงาน จ.นนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายจ้างอีกทางหนึ่งด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงงานที่ น.ส.ปัทมพร กล่าวอ้างว่าถูกนายจ้างข่มขู่ว่าจะยิงทิ้ง เพื่อตรวจสอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าของโรงงาน โดยเจ้าของโรงงานไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพและเสียง ก่อนให้ข้อมูลว่า อดีตพนักงานคนดังกล่าวมาสมัครเป็นเชลล์ขายสินค้าที่บริษัท โดยทำงานมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้กับทางบริษัทไม่ได้ แถมอดีตพนักงานยังสร้างความเสียหายให้กับบริษัท คือไปเสนอสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าบริษัทกำหนด ทำให้เชลล์รายอื่นมาต่อว่าบริษัทว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ได้รับสินค้าราคาถูกบ้าง ตนจึงเรียกอดีตพนักงานมาพูดคุย โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่าง หรือข่มขู่ว่าจะใช้ปืนยิงให้ตายแต่อย่างใด
ด้านทนายนิว ที่ปรึกษาด้านกฎของบริษัทดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า เจ้าของโรงงาน ดูแลพนักงานทุกคนเป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง ส่วนที่ระบุว่าเจ้าของโรงงานบังคับให้ผู้เสียหายเซ็นใบลาออกนั้นไม่เป็นเรื่องจริง เพราะผู้เสียหายสมัครใจที่จะเซ็นใบลาออกเอง เนื่องจากไม่สามารถทำยอดขายได้ตามที่ตกลงให้ไว้กับทางบริษัท ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ผู้เสียหายเข้ามาพูดคุยกันที่บริษัท แต่วันนี้ผู้เสียหายไม่สะดวก จึงนัดหมายว่าจะไปพูดคุยกันที่สภ.บางบัวทอง ในวันพรุ่งนี้ (6 ธ.ค.67)
ด้านน.ส.พจนา อายุ 39 ปี พนักงานธุรการบัญชี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเรื่องมีการประชุมกันเรื่องงาน โดยผู้เสียหายเคยบอกว่าถ้าทำยอดไม่ได้ก็จะพิจารณาตัวเองโดยจะขอลาออกสิ้นปีนี้ ตอนเกิดเหตุเจ้าของโรงงานถามว่ามีลูกค้าคนไหนบ้างให้ลิสต์มาเดี๋ยวจะจัดออเดอร์ส่งให้ ซึ่งไม่ตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งมา เจ้าของโรงงานจึงเกิดอารมณ์โมโหปาแก้วใส่ซิ้งค์ล้างจาน ซึ่งไม่ได้ปาใส่ผู้เสียหาย หลังจากนั้นผู้เสียหายก็เซ็นใบลาออกเอง โดยไม่มีการข่มขู่แต่อย่างใด
น.ส.พจนา บอกอีกว่า ตอนที่ตนเข้าทำงานใหม่ ๆ มีหมายศาลแจ้งให้ตนนำเงินไปใช้หนี้บัตรเครดิต ตนจึงลางานเพื่อไปเจรจากับคู่กรณีที่ศาล เมื่อกลับมา เจ้านายถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนตอบไปว่าต้องหาเงินไปใช้หนี้จำนวน 30,000 บาท เมื่อเจ้านาย ทราบเรื่องจึงให้ตนยืมเงินไปใช้หนี้โดยไม่คิดดอกเบี้ย ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายเคยยืมเงินเจ้าของไป ตนเพิ่งมารู้ภายหลัง เพราะตนเป็นคนทำบัญชี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น