“ผู้โดยสาร” หนีระทึก! กบฎซีเรียยึดดามัสกัส จนท.รัฐเผ่นเกลี้ยงสนามบิน

กบฎซีเรียยึดดามัสกัส ทำป่วนทั้งเมือง “ผู้โดยสาร” พากันเอาชีวิตรอด แต่หนีไม่ได้-ติดค้างสนามบินอื้อ หลังเจ้าหน้าที่ทิ้งเคาท์เตอร์หนีเกลี้ยง ไม่มีแม้แต่คนจะประทับตาหนังสือเดินทาง

“ผู้โดยสาร” หนีระทึก! กบฎซีเรียยึดดามัสกัส จนท.รัฐเผ่นเกลี้ยงสนามบิน – Top News รายงาน

 

ผู้โดยสาร

เหตุการณ์ความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสนามบินนานาชาติดามัสกัส เมื่อกลุ่มกบฎเข้ายึดครองเมืองหลวงซีเรียได้สำเร็จ ผู้โดยสารหลายคนต้องติดค้างที่สนามบิน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลบหนีไปหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่คนที่จะประทับตราหนังสือเดินทางให้ผู้โดยสาร

สำนักข่าวเอเอฟพี บีบีซี และรอยเตอร์รายงานว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศซีเรียตอนนี้ ล่าสุด กลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) อ้างว่า ได้ยึดกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรียแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกลุ่มกบฏสามารถยึดหลายเมือง รวมถึงเมืองฮอมส์ ซึ่งถือเป็นเมืองสำคัญได้ หลังต่อสู้กับกองทัพซีเรียของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เพียง 1 วัน โดยล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ของซีเรีย ได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว และกลุ่มกบฏได้ประกาศว่า ซีเรียได้เข้าสู่ยุคใหม่ หลังครอบครัว อัล-อัสซาด ปกครองซีเรียมายาวนานถึง 50 ปี

ชาวบ้านในกรุงดามัสกัส ให้ข้อมูลว่า ได้ยินเสียงปืนยิงต่อสู้กันในกลางกรุงดามัสกัส กลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม อ้างว่า สามารถควบคุมเมืองฮอมส์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางตอนเหนือราว 140 กิโลเมตร ได้แล้วทั้งหมด ชาวบ้านหลายพันคนได้ออกมาแสดงความดีใจตามท้องถนน หลังจากที่กองทัพซีเรีย ได้ถอนกำลังออกจากย่านใจกลางเมืองฮอมส์ โดยชาวบ้านต่างตะโกนว่า ฮอมส์เป็นอิสระแล้ว พร้อมกับแสดงความดีใจกับความพ่ายแพ้ของกองทัพซีเรีย ของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด โดยนี่ถือเป็นเมืองใหญ่แห่งที่ 3 ที่กลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม สามารถยึดครองได้ หลังการลุกฮือต่อต้านการปกครอง ของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน นายอาบู โมฮัมเหม็ด อัล โกลานี่ ผู้บัญชีการกลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม ได้ออกถ้อยแถลงเมื่อค่ำวันที่ 7 ธันวาคมว่า การยึด

เมืองฮอมส์ได้นั้น เป็นช่วงเวลาครั้งประวัติศาสตร์ และขอให้นักรบอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ เมืองฮอมส์เป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด เพราะจะทำให้กลุ่มกบฏยึดครองทางหลวงสายหลัก และตัดขาดเส้นทาง ระหว่างกรุงดามัสกัส และภูมิภาคที่ติดชายฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่มั่นของชาวอาลาวัต ชนกลุ่มน้อยของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด และตัดขาดกองทัพซีเรีย จากฐานทัพเรือ และฐานทัพอากาศ ของกองกำลังรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอัล-อัสซาด

นอกจากเมืองฮอมส์แล้ว ชาวบ้านในกรุงดามัสกัสหลายพื้นที่ ได้ออกมาประท้วงประธานาธิบดีอัล-อัสซาด เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ธันวาคม ด้านนายฮัสซัน อับดุล กานี ผู้บัญชาการกลุ่มกบฏซีเรีย แถลงว่า ปฏิบัติการปลดปล่อยอย่างสมบูณ์ กำลังดำเนินอยู่ในบริเวณรอบกรุงดามัสกัส และกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง โดยมีการโค่นล้มรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด พ่อของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กลุ่มกบฏได้ประกาศว่า ซีเรียเป็นอิสระแล้ว หลังประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ได้ออกจากกรุงดามัสกัส ถือเป็นจุดจบของยุคมืด และจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ผู้คนที่พลัดถิ่น หรือคนที่ถูกจำคุก จากระบอบการปกครองของครอบครัวอัล-อัสซาด นานราว 50 ปีสามารถกลับบ้านได้ ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพซีเรีย 2 นายให้ข้อมูลว่าประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ได้ขึ้นเครื่องบินออกจากกรุงดามัสกัสแล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม โดยยังไม่รู้จุดหมายปลายทาง ซึ่งดูเหมือนว่าอัล-อัสซาด ได้ออกจากประเทศซีเรียแล้ว มีรายงานว่า ประชาชนชาวซีเรีย ได้ออกมาแสดงความดีใจ ในกลางกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง อาทิ กระทรวงกลาโหม และกองทัพซีเรีย ภาพถ่ายในโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นผู้คนต่างเปิดเพลงและเต้นรำ อยู่รอบรถถังคันหนึ่ง ที่กองทัพซีเรียได้ทิ้งไว้ ส่วนเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ได้ออกจากสำนักงาน ที่ทำการในกรุงดามัสกัสแล้ว

กองบัญชาการทหารของซีเรียได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ได้สิ้นสุดลงแล้ว นายอัล โกลานี่ ผู้นำกลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม ขอให้นักรบ ไม่บุกเข้าไปในที่ทำการทางราชการ ในกรุงดามัสกัส โดยบอกว่าหน่วยราชการจะยังอยู่ภายใต้การดูแลของนายกรัฐมนตรีซีเรียต่อไป จนกว่าจะมีการส่งมอบหน่วยราชการ และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออย่างเป็นทางการ ด้านนายกรัฐมนตรีซีเรียกล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้นำคนใดก็ตาม ที่ชาวซีเรียเลือก

 

สงครามกลางเมืองของซีเรียปะทุขึ้นในปี 2011 จากการลุกฮือเพื่อต่อต้านการปกครองของประธานาธิบดีอัล-อัสซาด กลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม ซึ่งอดีตคือกลุ่มอัลเคด้า ในประเทศซีเรีย ซึ่งรัฐบาลชาติตะวันตก ระบุให้กลุ่มกบฏอายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม เป็นองค์กรก่อการร้าย การลุกฮือเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีอัล-อัสซาด ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 826 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักรบ แต่มีพลเรือนเสียชีวิตด้วย 111 ราย ด้านองค์การสหประชาชาติระบุว่า ความรุนแรงในซีเรีย ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นแล้วกว่า 370,000 คน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้จุดความกลัวว่า จะเกิดความไม่มั่นคงรอบใหม่ในตะวันออกกลาง หลายประเทศ อาทิ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ ตุรกี และรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่า วิกฤตในซีเรีย เป็นพัฒนาการที่อันตราย และขอให้มีการแก้ปัญหาทางการเมือง และชาวซีเรียหลายคนกลัวว่า กลุ่มกบฏจะใช้กฎการปกครองแบบอิสลามที่เข้มงวด ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่กล่าวว่า สหรัฐอเมริกา ไม่ควรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาในซีเรีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ผู้บริหารท็อปนิวส์" ร่วมแสดงความยินดี "ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม" คนใหม่ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
"ผู้บริหารท็อปนิวส์" เข้าพบ "รมว.วัฒนธรรม" หารือด้านการประชาสัมพันธ์
"ผู้บริหารท็อปนิวส์" ถือฤกษ์ดีเข้าอวยพรปีใหม่ "ปลัดสำนักนายกฯ" พร้อมชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ "พระราชพิธีสมมงคล" 14 ม.ค.นี้
หนีไม่รอด “ไอ้เหน่ง” เอเย่นต์ยายิงสู้ตร.สายไหม จนมุมหลังหนีกบดานประเทศเพื่อนบ้าน
ปิดฉากรัก 13 ปี "ต่อ ธนภพ" เปิดใจทั้งน้ำตา รับเลิกกับแฟนสาวนอกวงการ
บ้านลูกชายไบเดนไหม้เป็นเถ้าในไฟป่าสหรัฐ
โจรจีนเหิม! ก่อเหตุวิ่งราว-ฉ้อโกง 2 คดีซ้อน สูญรวม 13 ล้าน ตร.ยันยังไม่พบความเชื่อมโยงแก๊งเดียวกัน
จีนยุติการค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวทิเบต
ทิวทัศน์ ‘แม่น้ำเหลือง’ ของจีนกำลังเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง
"ปลัด กทม." กำชับหน่วยงานในสังกัด เร่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ลดผลกระทบต่อ ปชช.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น