นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด กล่าวที่สภาหอการค้าฮาลิแฟกซ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม ว่า แคนาดาจะตอบโต้ หากโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ภาษีศุลกากรใหม่กับสินค้าแคนาดา และเตือนว่า การตั้งภาษีตอบโต้เคยสำเร็จมาแล้ว เมื่อครั้งที่ทรัมป์ขึ้นภาษีเหล็กกล้า และอะลูมิเนียมแคนาดาเมื่อ 8 ปีก่อน
เป็นครั้งแรกที่ทรูโด ใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวที่สุดในการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลของเขาเตรียมการไว้เช่นกัน หากทรัมป์คำตามคำขู่เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนว่า จะเก็บภาษีสินค้าทุกชนิดจากแคนาดาและเม็กซิโก ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีวันแรก เว้นแต่สองประเทศเพื่อนบ้าน จะดำเนินการควบคุมผู้ลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมายและเฟนทานิล เข้าไปในสหรัฐฯ
ทรูโด กล่าวว่า อย่าหลอกตัวเองไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง / ภาษี 25% กับสินค้าแคนาดาที่ส่งไปสหรัฐฯ จะเป็นหายนะของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งด้วยการสัญญาจะทำให้ชีวิตชาวอเมริกันดีขึ้นและถูกลง ซึ่งเขาคิดว่าเพื่อนบ้านทางใต้เวลานี้ เริ่มตื่นขึ้นมารับรู้ความเป็นจริงแล้วว่า การเก็บภาษีกับสินค้าทุกอย่างจากแคนาดา จะทำให้ราคาสินค้าที่สหรัฐฯนำเข้าจากแคนาดาแพงขึ้นเช่นกัน
ผู้นำแคนาดา กล่าวว่า น้ำมันดิบนำเข้าของสหรัฐฯ มาจากแคนาดา 65% ก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่แคนาดาส่งออก ก็ไปที่สหรัฐฯ ชาวอเมริกันยังพึ่งพาเหล็กและอลูมิเนียม และสินค้าเกษตรหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดนี้จะราคาแพงขึ้น และว่า แคนาดากำลังสำรวจมาตรการเหมาะสม เพื่อตอบโต้ภาษีอย่างไม่เป็นธรรม เช่นเดียวกับการตอบโต้ภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมแคนาดา จนนำไปสู่การยกเลิกภาษีศุลกากรในครั้งที่แล้ว
ทั้งนี้ หลังจากทรัมป์ประกาศเก็บภาษีสินค้าสองชนิดดังกล่าวจากแคนาดา ในปี 2561 แคนาดาหันไปเก็บภาษีสินค้าที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองจากสหรัฐฯตอบโต้ เช่น วิสกี้เบอร์เบิน ,ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ซอสมะเขือเทศ ไฮน์ เชอร์รี และอื่น ๆ ที่มุ่งให้เกิดผลกระทบทางการเมืองต่อพรรครีพับลิกัน และเพื่อนร่วมงานของทรัมป์ มากกว่าผลทางเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีทรูโด กล่าวด้วยว่า ทรัมป์พูดแล้วทำ แต่หลายครั้งก็มีมูลเหตุจูงใจอื่นซ่อนอยู่ด้วย บ่อยครั้ง ทรัมป์ชอบท้าทายผู้คน บั่นบอนคู่เจรจา สร้างความไม่แน่นอน กระทั่งหย่อนความอลหม่านเล็กน้อยเข้าไปในวิถีประชาธิปไตยและสถาบันต่าง ๆ สำคัญที่สุดสำหรับแคนาดา คือต้องไม่ตื่นตกใจ ไม่เต้นตาม จะต้องยึดแนวทางที่ผ่านการคิดคำนวณและเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อบรรลุข้อตกลงกับทรัมป์ และหลีกเลี่ยงทำอันตรายแก่เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำแคนาดา เตือนว่า การรับมือทางการค้ากับทรัมป์ในสมัยที่สอง จะมีความยุ่งยาก และท้าทายกว่าสมัยแรก ทรัมป์และทีมงานใกล้ชิดกลับมาครั้งนี้ พร้อมด้วยแนวคิดที่ชัดเจนกว่าเดิมว่า พวกเขาต้องการทำสิ่งใดและทำทันทีมากกว่าครั้งก่อน แต่เขาเชื่อว่า แคนาดาจะหาทางออกแบบ วิน-วิน สำหรับภาคธุรกิจและประชาชนสองฟากฝั่งได้อีกครั้ง