กองทัพอิสราเอล หรือ IDF แถลงว่า กองทัพอากาศและกองทัพเรือ ผนึกกำลังโจมตีเป้าหมายทางทหารและยุทธศาสตร์ ราว 480 ระลอกทั่วซีเรีย ในรอบ 48 ชั่วโมงหลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ล่มสลายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และประเมินว่า ปฏิบัติการภายใต้ชื่อ “ลูกศรบาชาน” หรือ บาชาน แอร์โรว์ (Bashan Arrow) ตามชื่อที่ราบสูงโกลันและพื้นที่ทางใต้ของซีเรียในพระคัมภีร์ ทำลายขีดความสามารถทางทหารของอดีตระบอบอัสซาด ไปถึง 70-80%
กบฏซีเรียรุกคืบยึดเมืองหลวงสำเร็จในวันที่ 8 ธันวาคม แต่อิสราเอลเปิดฉากถล่มตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม เริ่มต้นจากทำลายระบบป้องกันทางอากาศซีเรียกรุยทาง ก่อนส่งเครื่องบินรบและโดรน ถล่มฐานทัพอากาศ คลังแสง โรงงานผลิตอาวุธในกรุงดามัสกัส เมืองฮอมส์ ทาร์ทัส ลาทาเกียชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และพัลมีรา ผลการโจมตีทำลายอาวุธปล่อยพิสัยไกล ขีปนาวุธสกั๊ด ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธจากชายฝั่งสู่ทะเล ระบบป้องกันทางอากาศ เครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ เรดาร์ รถถัง โรงเก็บเครื่องบิน และอื่น ๆ นอกจากนี้ กองทัพอากาศอิสราเอล ยังถล่มเป้าหมายที่อ้างว่าเป็นโรงงานอาวุธเคมีในซีเรีย
คืนวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม กองทัพเรืออิสราเอล ยิงถล่มเรือกองทัพเรือซีเรีย 15 ลำที่อ่าว มิเนต เอล ไบดา (Minet el-Beida ) และท่าเรือลาทาเกีย ภาพถ่ายสำนักข่าว AFP แสดงให้เห็นซากเรือถูกไฟไหม้ดำหลายลำ นอกจากนี้ ยังมีภาพที่แสดงให้เห็น ศูนย์วิจัยทางทหารในย่านบาเซห์ เมืองหลวงซีเรีย ถูกทำลายจนเหลือแต่ซาก
ระบอบอัสซาด เป็นพันธมิตรอิหร่าน และเป็นส่วนหนึ่งของ “อักษะแห่งการต่อต้าน” ที่จ้องเล่นงานอิสราเอล โดยซีเรียถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธอิหร่าน ไปให้กับกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่รบกับอิสราเอลมาปีกว่า ก่อนตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนที่แล้ว อิสราเอลเกรงว่า การถล่มสลายของระบอบอัสซาด อาจจะทำให้อาวุธตกอยู่ในมือของกองกำลังฝ่ายตรงข้ามในซีเรีย ที่มีอยู่มากมายหลายกลุ่ม รวมถึงฮิซบอลเลาะห์ในซีเรีย
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวานว่า อิสราเอลพร้อมสานสัมพันธ์กับระบอบใหม่ในซีเรีย แต่หากยอมให้อิหร่านเข้าไปปักหลักในซีเรียอีกครั้ง หรือยอมให้ขนอาวุธอิหร่าน หรืออาวุธใดก็ตามไปให้กับฮิซบอลเลาะห์ คุกคามรัฐยิว อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงโดยไม่รีรอ
เช่นเดียวกับ นายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ที่เตือนเหล่ากบฏซีเรียว่า หากกลุ่มใดทำตัวเป็นภัยกับอิสราเอล เดินตามรอยอัสซาด ก็จะพบกับจุดจบแบบอัสซาด และจะตกเป็นเป้าของอิสราเอลทันที
ส่วนภาคพื้นดิน กองทัพอิสราเอล ยอมรับว่า มีทหารเข้าไปอยู่ในดินแดนซีเรี ย เลยเขตกันชนที่กั้นระหว่างที่ราบสูงโกลันกับซีเรีย แต่ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า อิสราเอลส่งรถถังเข้าไปใกล้กรุงดามัสกัส
เขตกันชน หรือ พื้นที่แบ่งแยก ( Area of Seperation) เป็นส่วนหนึ่งของการทำความตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับซีเรียในปี 2517 เพื่อแยกทหารซีเรียและซีเรียออกจากกัน ภายหลังอิสราเอลยึดครองที่ราบสูงโกลันในปี 2510 ต่อมา อิสราเอลผนวกที่ราบสูงโกลันฝ่ายเดียวในปี 2524 โดยที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับ เว้นสหรัฐฯที่รับรองฝ่ายเดียวในปี 2562 ขณะนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ ให้ข้อตกลงหยุดยิงปี 2517 เป็นโมฆะ และสั่งทหารเข้าไปในเขตกันชน ที่มีทหารยูเอ็นประจำอยู่ ไม่สนเสียงประณามจากชาติอาหรับที่กล่าวหาอิสราเอลว่า ฉวยใช้ความไร้เสถียรภาพและช่วงอ่อนไหว ยึดครองแผ่นดินซีเรีย
กลุ่ม เสียงแห่งเมืองหลวง ในซีเรีย บอกเมื่อวาน (10 ธ.ค.) ว่า ทหารอิสราเอลรุกเข้าไปถึงหมู่บ้าน “เบกาเซม” ห่างจากเมืองหลวงซีเรียเพียง 25 กิโลเมตร และห่างจากเขตปลอดทหารฝั่งซีเรียเข้าไปหลายกิโลเมตร หมู่บ้านดังกล่าว ตั้งอยู่บนเนินเขา “เฮอร์มอน” ในซีเรีย ที่กองทัพอิสราเอลเข้ายึดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ภูเขาเฮอร์มอน เป็นชัยภูมิบริเวณชายแดนระหว่างซีเรีย เลบานอน และที่ราบสูงโกลัน
ทหารอิสราเอลเข้าไปเคลื่อนไหวในเขตแดนซีเรีย หลังจากเนทันยาฮูสั่งให้ทหารเข้าไปยึดเขตกันชน แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลไม่เปิดเผยว่า ทหารอิสราเอลเข้าไปลึกแค่ไหน และจะอยู่อีกนานเท่าไหร่