อุกอาจ..!! 2 กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายแย่งพื้นที่ผลประโยชน์ดวลปืนสนั่นกลางชุมชน-สาวอายุ 38 ปีพร้อมลูก ลูกชาย 3 ขวบโดนลูกหลงบาดเจ็บ 2

(11 ธ.ค.) เมื่อเวลาคืนที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เรียบร้อย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 127 ชุมชนป่าพร้าวหมู่ 1 ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชรับแจ้งแล้ว จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก. สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.จารุ เพ็ชรปาน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท อภิรัฐ ทองฉิน รอง ผกก. (สอบสวน) พ.ต.ท. ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ท. วรเศรษฐ์ ศรีใหม่ รอง ผกก. พ.ต.ต. มนัส พิทักษ์บูรพา สวป.สภ.นำกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบ รีบรุดไปตรวจสอบอย่างที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นลานชุมชนมีบ้านเรือนอยู่โดยรอบอย่างหนาแน่น พบผู้เสียหายทราบชื่อนายณรงค์ฤทธิ์ เหมทานนท์ อายุ 45 ปี อยู่ที่ 131/2 หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกมือปืนกระหน่ำยิงแต่กระสุนไม่ถูกนายณรงค์ฤทธิ์ หรือ “บังเฉด” อย่างไรก็ตาม กระสุนพลาดไปถูก สองแม่ลูกได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.จริยา จกแก้ว อายุ 38 ปี อยู่ที่ 148/3 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ถูกกระสุนปืนที่แขนขวา และ ด.ช.อัฎดาฮา ฮัดชา อายุ 3 ปี ลูกชายของ น.ส.จริยา ถูกกระสุนปืนที่ สะโพก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่ง รพ.ค่ายวชิราวุธ ก่อนหน้าแล้ว

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มือปืน ที่กระหน่ำยิงจนมีผู้บาดเจ็บในครั้งนี้มีจำนวน 3 คนประกอบด้วย นายสักรินทร์ หรือ ริก ศิริสุข อายุ 33 ปี นายปฏิยุทธ์ หรือ โอมห์ ศรีเมือง อายุ 35 ปี และ นายอภิรักษ์ หรือ กัส พึ่งเนียม อายุ 20 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความ ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มี อาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และนำกระมังออกติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 3 คนอย่างกระชั้นชิด ต่อไป

จากการสอบสวนสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายณรงค์ฤทธิ์ “บังเฉด” ผู้เสียหาย ได้เดินออกจากบ้านพัก ไปซื้อของที่ร้านของชำ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มี ผู้ต้องหา ทั้ง 3 คนซึ่งรู้จักนายณรงค์ฤทธิ์ ฯ ผู้เสียหาย มาก่อนเดินออกจากมาจากจุดที่ซุ่มหลังร้านขายของชำตรงมาหานายณรงค์ฤทธิ์ ฯ ผู้เสียหาย พร้อมยกปืนเล็ง มาที่นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย เมื่อนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย เห็นได้วิ่งหลบหนี ผู้ต้องหา จึงกราดยิงใส่ 3 นัดกระสุนปืนพลาดไม่ถูกนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย วิ่งหนีรอดชีวิตหวุดหวิด แต่ห่ากระสุนปืนพลาดไปถูก น.ส.จริยา ฯ ที่แขนขวา และ ด.ช.อัฎดาฮาฯ ลูกชาย น.ส.จริยา ที่สะโพกขวา ซึ่งยืนอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพากันวิ่งหลบหนีไป ต่อมา พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่ รพ.ค่ายวชิราวุธ แพทย์ ช่วยกันรักษาอาการบาดเจ็บของผู้บาดเจ็บอยู่ยังไม่สะดวกที่จะสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายณรงค์ฤทธิ์หรือ “บังเฉด” ผู้เสียหาย เชื่อว่ามาจากเหตุที่เมื่อประมาณเดือนเศษผ่านมา ผู้ต้องหา มีเรื่องทะเลาะกับหลานชายของนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย และนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย ได้เข้าไปห้ามปราบกลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ผู้เสียหาย เป็นอย่างมาก จึงมาก่อนเหตุดังกล่าว ซึ่งในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขัดแย้งกับหลานชายของนายณรงค์ฤทธิ์เกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่าง จนเกิดการแย่งพื้นที่หาผลประโยชน์กันมาระยะหนึ่งแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สามารถติดตามจับกุม ผู้ต้องหา ได้ 1 คนคือนายปฏิยุทธ์ หรือ “โอมห์”ศรีเมือง ให้การรับสารภาพว่า อ้างว่าตนพร้อมพวกอีก 2 คน ได้ไปซื้อของที่ร้านขายของชำพบนายณรงค์ฤทธิ์หรือ “บังเฉด” คู่อริยืนอยู่และนายณรงค์ฤทธิ์หรือ “บังเฉด”ได้ใช้อาวุธปืน ยิงใส่ตนและพวก 1 นัดจึงเกิดการยิงดวลปืนกันขึ้นทำให้สองแม่ลูกโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บดังกล่าวโดนลูกหลงบาดเจ็บดังกล่าวตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความ ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มี อาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ส่วนผู้ต้องหา ที่เหลืออีกจำนวน 2 คน ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลจังหวัด นครศรีธรรมราช ออกหมายจับ จับกุม มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
11 ธ.ค.2567