การเมืองท้องถิ่นเมืองคอนส่อเลือดเดือด !! คนสนิทนักการเมืองชื่อดังควงปืนบุกที่ทำการกำนันก่อน 9 มม. รั่ว 4 นัด

การเมืองท้องถิ่นเมืองคอนส่อเลือดเดือดคนสนิทนักการเมืองชื่อดังควงปืนบุกที่ทำการกำนันก่อนรัว 9 มม.4 นัด-ตำรวจเจ๋งจริงตามรวบทันควันพร้อมของกลางครบครัน-ทุกฝ่ายหวาดหวั่นศึกเลือกตั้งท้องถิ่นเมืองบานปลายรุนแรงถึงขั้นนองเลือด

(10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2567 พ.ต.อ.สมพร พฤกษวานิช ผกก.สภ.เชียรใหญ่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกเข้าไปในบริเวณที่ทำการกำนัน ตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. รัวยิงขึ้นฟ้า เพื่อกวดศักดาบารมีข่มขู่นายประสิทธิ์ ประจงใส หรือ “กำนันทอง” กำนันตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งรวมทั้งญาติพี่น้อง ๆ นายประสิทธิ์ หรือ “กำนันทอง”
หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน รีบหลุดเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมรายงานเหตุการณ์ให้พลตำรวจตรีสมชายชื่อต่อตระกูล ผบกภ.จว. นครศรีธรรมราชทราบเป็นการเบื้องต้น โดยในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่บริเวณลานหน้าที่ทำการ กำนันตำบลท้องลำเจียกจำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพของใช้รถยนต์เก๋งสีดำรถเก๋ง ยี่ห้อ Toyota สีดำทะเบียน กว -974 นครศรีธรรมราช ขับเข้ามาจอดบริเวณริมถนนหน้าที่ทำการกำนันตำบลท้องลำเจียก ก่อนที่นายสุธาธาณร์ (ของสงวนนามสกุล) หรือ”หลวงกด” ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน เดินลงจากรถเข้าไปยังบริเวณลานลานหน้าที่ทำการกำนันตำบลท้องลำเจียก ก่อนจะชักอาวุธปืนรัวยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ 4 นัดซ้อน หลังก่อเหตุนายสุธาธาณร์ หรือ”หลวงกด” เดินถือปืนอย่างใจเย็นออกมาขับรถยนต์เก๋ง ที่จอดอยู่ริมถนนเลี้ยวกลับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.สมพร พฤกษวณิช ได้นำลังตำรวจออกติดตามไล่ล่ามือปืนอย่างกระชั้นชิด จนพบว่ารถยนต์เก๋งคันคันเป้าหมายดังกล่าวขับเข้าไปจอดที่บ้านหลังหนึ่งไม่ห่างจากที่เกิดเหตุมากนัก จึงเข้าไปตรวจสอบพบนายสุธาธาณร์(ของสงวนนามสกุล) หรือ”หลวงกด” เจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวสวมเสื้อยืดสีเหลืองกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ลงจากในรถด้วยอาการเหมือนคุณโมสุราอย่างหนัก จึงเข้าควบคุมตัวและยึดรถยนต์มาสอบสวนที่โรงพัก ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์สูงถึง 490 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่พบสารเสพติดอื่นในร่างกาย ก่อนนำตัวมันยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจหากเขม่าดินปืน และ ตรวจสอบอาวุธปืนอย่างละเอียดไว้เป็นหลักฐานทางคดี ส่วนอาวุธปืน นายสุธาธาณร์ หรือ”หลวงกด”ให้การรับสารภาพว่าได้ปาทิ้งริมถนนขณะขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จะระดมกระมังออกค้นหาอาวุธปืนของกลางต่อไป
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนปากคำประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นน้าสาวของนายประสิทธิ์ ประจงใส หรือ “กำนันทอง” ให้การยืนยันว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุธาธาณร์ หรือ”หลวงกด” โดยได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาจอดริมถนนหน้าที่ทำการกำนันตำบล ก่อนที่จะเดินเข้ามาสอบถามหานายประสิทธิ์ ประจงใส หรือ “กำนันทอง” และพ่อของกำนัน ซึ่งตนได้แจ้งว่ากำนันและพ่อไม่อยู่บ้านนายสุธาธาณร์หรือ”หลวงกด” จึงใช้อาวุธปืน 9 มม.ออกมารัวยิงขึ้นฟ้าต่อเนื่อง 4 นัดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนจะเดินอย่างใจเย็นไปขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวหลบหนีไปจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้คาหนังกับเขาที่บ้านพักดังกล่าว
พ.ต.อ.สมพร พฤศวานิช ผกก.สภ.ชียรใหญ่ กล่าวว่า โดยสรุปเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาดำเนินคดี รวม 7 ข้อหา ประกอบด้วย – ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 2 ข้อหา 1.มีใช้อาวุธปืนเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.พกพาอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควร, – ตาม ป.อาญา 1.บุกรุกในเคหสถานโดยมีอาวุธปืนในเวลากลางคืน 2. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น 3. ยิงปืนในหมู่ หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และตาม พรบ.จราจร 1. เมาขับ2. ขับรถโดยใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ รวม 7 ข้อหา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และตำรวจไม่ให้ประกันตัวชั้นตำรวจ กำหนดฝากศาลขังต่อวันพรุ่งนี้(11 ธ.ค.)

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าวทำให้บรรยากาศทางการเมือง ท้องถิ่นซึ่งเพิ่งผ่านการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชและกำลังมีการฟอร์มทีมเพื่อลงสมัคร สมาชิกสภาจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นอย่างมาก เนื่องจากนายสุธาธาณร์ หรือ”หลวงกด” ผู้ก่อเหตุ เป็นคนสนิทของนักการเมืองระดับชาติคนหนึ่งที่เพิ่งผันตัวเองมาเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น และอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับทีม “พลังเมืองนคร” ที่เพิ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกำลังอยู่ระหว่างการคัดสรรตัวผู้สมัครชิงตำแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช 42 เขต/คน ทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งจะหมดวาระ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ และทาง กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้ทุกฝ่ายต่างวิตกกังวลว่าความขัดแย้งจะลุกลามบานปลายจนถึงขั้นมีการทำร้ายร่างกายกันบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในการเลือกตั้ง ทุกระดับที่จะมีขึ้นในวันข้างหน้าก็เป็นได้ จึงเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจหามาตรการในการควบคุมสถานการณ์และ บังคับใช้กฎหมายอย่าง เข้มงวดกวดขันต่อเนื่องจริงจังและเด็ดขาดอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามรุนแรงไปมากกว่านี้.ข่าวคืบหน้าจะติดตามนำเสนอต่อไป

ไพฑูรย์ อินศิลา /นครศรีธรรมราช
10 ธ.ค.2567

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ ตั้งองค์คณะไต่สวนปมชั้น 14 เอาผิด อธิบดีคุก-แพทย์ตร.-ผบ.เรือนจำ รวม 12 คน
บริษัท อู่ตะเภาฯ UTA ทุ่ม 400 ล้าน มอบ 2 อาคารบ้านพักทหารเรือ เป็นของขวัญปีใหม่
ราคาขึ้นต่อเนื่อง พรุ่งนี้น้ำมัน "เบนซิน-โซฮอล์" ปรับขึ้น 40 สตางค์
อดีต "สว.สมชาย" โพสต์คืบหน้า ป.ป.ช.ลงมติปมชั้น 14
"การไฟฟ้านครศรีฯ" แจ้งงดจ่ายกระแสไฟฟ้า 20 ชุมชน
"พาณิชย์" ชวนเที่ยวปีใหม่ 68 ชม ชิม ช้อปสินค้า ตลาดต้องชม กว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศ
"นายกฯ อิ๊งค์" ลงใต้ด่วนพรุ่งนี้ ลุยนครศรีฯ-สุราษฎร์ดูน้ำท่วมทันที หลังถกครม.
นายกฯ แจงปม 4 ลูกเรือประมงไทย ต้องรับโทษจำคุก เป็นตามกระบวนการกม.เมียนมา เตรียมเจรจายื่นขออภัยโทษ
"กรมโยธาฯ" รับมอบนโยบาย มท.3 เดินหน้าบูรณาการ เทคโนฯดิจิทัล นำพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตปชช.
ศาลเมียนมา สั่งจำคุก 4 ลูกเรือประมงไทย 4-6 ปี เหตุรุกล้ำน่านน้ำ ลอบเข้าประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น