“เอกนัฏ” สั่งถอนใบอนุญาต รง.ทำผิดซ้ำ ฝ่าฝืนคำสั่งลอบเปิดกิจการ พร้อมประสานทุกหน่วยงานดำเนินคดีเด็ดขาด

“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” ตรวจ รง.ใน อ.ศรีมหาโพธิ หลังพบฝ่าฝืนคำสั่งลักลอบประกอบกิจการ เคลื่อนย้ายของกลาง สั่งเพิกถอนใบอนุญาต พร้อมแจ้งทุกหน่วยงานดำเนินคดีถึงที่สุด แถมตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศอีกกว่า 3 พันตัน ขยายผลหาต้นตอ

“เอกนัฏ” สั่งถอนใบอนุญาต รง.ทำผิดซ้ำ ฝ่าฝืนคำสั่งลอบเปิดกิจการ พร้อมประสานทุกหน่วยงานดำเนินคดีเด็ดขาด – Top News รายงาน

 

เอกนัฏ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่ง ทีมตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมควบคุมมลพิษ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) และนายอำเภอศรีมหาโพธิ เข้าตรวจสอบบริษัท ที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด ที่ตั้งอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งบริษัทแห่งนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี และกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีคำสั่งห้ามประกอบกิจการโดยไม่รับอนุญาต ห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของ วัสดุ เครื่องจักรที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งอายัดไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย.67 เป็นต้นมา แต่กลับพบว่าบริษัทแห่งนี้มีการฝ่าฝืนคำสังอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบการลักลอบประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและพบการลักลอบขนย้ายวัสดุ สิ่งของ เครื่องจักร และสิ่งอื่น ๆ ที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ยึดอายัดไว้ นอกจากนี้ยังพบพยานหลักฐานการลักลอบทิ้งสารเคมีและกากอุตสาหกรรมในพื้นที่บ่อน้ำที่ใกล้เคียงกับบริษัทด้วย ด้วยพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนไม่เคารพกฎหมาย ประกอบกับคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาจากหลักฐานพฤติกรรมของบริษัทแล้ว จึงมีข้อเสนอไม่รับอุทธรณ์บริษัทดังกล่าว และออกแนวทางปฏิบัติเสนอมายังรัฐมนตรี โดยได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมทำหนังสือแจ้งคำสั่งปิดโรงงานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร, กรมสรรพากร, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และนายอำเภอศรีมหาโพธิ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัทที่กระทำผิดตามอำนาจหน้าที่ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการเข้าตรวจค้นเพิ่มครั้งนี้ทีมตรวจการสุดซอยยังตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าจากต่างประเทศอีกกว่า 3,000 ตัน และพบการกระทำผิดเพิ่มเติม จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท และจะขยายผลขอความร่วมมือจากกรมศุลกากรตรวจหาที่มาของขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป”

 

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” ย้ำชัดมติ “ภูมิใจไทย” ไม่ร่วมแก้รธน. มั่นใจไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม แจ้งนายกฯเรียบร้อย
"ผู้ว่าฯ อุทัยธานี" นำพุทธศาสนิกชน ร่วมกันทำบุญตักบาตร-เวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา 2568
"รัสเซีย" สาด Iskander 10 ลูก ถล่ม "กรุงเคียฟ" ตูมสนั่น 15 รอบ-ไฟลุกท่วม
เร่งล่าตัวแก๊งลักรถจยย.ยิงสู้ตำรวจ ด้านบช.น.เตรียมดำเนินคดีชุดวิสามัญ
"ผบ.ตร." ย้ำมาตรการกดดันได้ผล "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ยอมปล่อยตัวอีก 261 คน ข้ามแดนกลับไทย
"อนุทิน" ลุยภารกิจชายแดนใต้ ให้กำลังใจ-เยี่ยมผู้บาดเจ็บ จากสถานการณ์ความไม่สงบ
ขีดเส้นตายแล้ว DSI เผยกำหนดการ ขอหมายจับ “หม่องชิต ตู” เอี่ยวคดีค้ามนุษย์
เหยื่อรายใหม่โผล่ร้อง ‘กัน จอมพลัง’ เอาผิดแก๊งสาดน้ำซุป เผยโดนทำร้ายน่วม หนักสุดที่ใบหน้า
เดือด! ทำไมแค่สั่งย้าย “ผู้การ” เอี่ยวเมียวดี เหยื่อมิจฯ 5 แสนคนข้องใจ-พร้อมบวก
โปรดเกล้าฯ “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” นั่งประธาน ป.ป.ช.คนใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น