“บิ๊กอ้อ” ฟันธง ปมฆ่า “สจ.โต้ง” ไตร่ตรองไว้ก่อน สั่งเพิ่มข้อหาหนัก

ผู้ช่วยผบ.ตร.ฟันธง หลังพา 3 ผู้ต้องหา ชี้จุดบ้านเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิต เชื่อมีการวางแผน ล็อคเป้าล่วงหน้า สั่งเพิ่มข้อหาหนัก "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"

“บิ๊กอ้อ” ฟันธง ปมฆ่า “สจ.โต้ง” ไตร่ตรองไว้ก่อน สั่งเพิ่มข้อหาหนัก – Top News รายงาน

บิ๊กอ้อ

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 พลตำรวจโทอัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังจากพาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ชี้จุดเกิดเหตุ พบว่า คนร้ายลงมือก่อเหตุยิง สจ.โต้ง ที่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับการจำลองเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะนี้ พฐ.กำลังรวบรวมมาให้ ส่วนกรณีของผู้ยิงเป็นใคร ตอนนี้รู้แล้วแต่อยู่ในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้

สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุมีทั้งหมด 3 ชั้น เหตุเกิดเริ่มที่ชั้น 2 ส่วนชั้นที่ 3 ก็พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการยิงต่อเนื่องลงมาถึงชั้นล่าง ซึ่งบริเวณชั้นล่าง พบพยานหลักฐานคือปลอกกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก

จากรูปการณ์ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการลงมายิงซ้ำ จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดพบว่ามีการยิง ทั้งจากในบ้านและนอกบ้าน ลักษณะเป็นการยิงต่อสู้กัน ขณะนี้รอให้กองพิสูจน์หลักฐานสรุปให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนกรณีกล้องวงจรปิด ก็ต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าใช้การได้ทั้งหมดหรือไม่ และกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพช่วงขณะเกิดเหตุไว้ได้หรือไม่

นอกจากนี้ บิ๊กอ้อ ยังกล่าวย้ำอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมีการวางแผนมาเป็นขั้นเป็นตอนล่วงหน้า มีการล็อคเป้า ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า จึงเตรียมที่แจ้งข้อหากลุ่มผู้ก่อเหตุเพิ่ม ในข้อหา”ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ต้องหาที่ได้มีการรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิง ก็ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่าใช่มือปืนผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่

ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่า มีตำรวจ 4-5 นาย อยู่ในที่เกิดเหตุ นั้น พลตำรวจโทอัครเดชยืนยันว่า ในที่เกิดเหตุไม่มีตำรวจ แต่ยอมรับว่ามีตำรวจ อยู่บริเวณด้านนอกจริง ซึ่งตำรวจ 4-5 นายนี้ไปดูแลความปลอดภัย ให้กับบุคคลแต่จะเป็นบุคคลใด ระหว่างเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวหรือผู้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มีการยิงโต้ตอบกัน สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นการเข้าไปพยายามที่จะระงับเหตุ ส่วนขั้นตอนจะเป็นอย่างไร รอให้คณะทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบปากคำประเด็นในเรื่องของการตกแต่งสถานที่เกิดเหตุ จากการที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่ามีการที่จะพยายาม เปลี่ยนแปลงสถานที่บางอย่าง แต่จากการที่ได้สอบปากคำอย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินมาถูกทางแล้ว จึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุหรือผู้บงการ จะมีคนเดียวหรือหลายคน อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนตัวเชื่อว่า มีการวางแผนก่อเหตุล่วงหน้ามาหลายวันแล้ว

ส่วนกรณีที่หนึ่งในเจ้าของคลิปเสียง คือรองนายกอบจ.ปราจีนบุรี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่า ไม่เห็นมือปืนในบ้านหลังดังกล่าว ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถบอกได้ ต้องดูว่าคลิปเสียงดังกล่าวมาจากใคร บันทึกไว้ช่วงเวลาไหน มีเจตนาอะไร และมีความหมายอย่างไร ส่วนเรื่องของคดีต้องดูที่หลักฐานและการวางแผนการสอบสืบสวนสอบสวน

พลตำรวจโทอัครเดช กล่าวว่า การล็อคประตูบ้าน แล้วก่อเหตุยิง เป็นการล็อคเป้าเหยื่อล่วงหน้า เชื่อว่า มีการวางแผนจะเตรียมการไว้ก่อน ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันทันด่วน ซึ่งจาก พยานหลักฐาน เป็นวิถีกระสุน และกระสุนใน ที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ตายวิ่งหนีลงมาจากชั้น 2 จนถึงชั้นล่างและคนร้ายก็ตามมายิงซ้ำ ส่วนผู้ตายจะเห็นหน้าคนร้ายหรือไม่ไม่สามารถตอบได้ แต่สิ่งที่ตนเองสามารถยืนยันได้ก็คือ คนร้ายเปิดฉากยิงผู้ตายด้วยปืนลูกซอง ทำให้ผู้ตายไม่สามารถหลบหนีได้จากนั้นคนร้ายก็ล็อคเป้ายิงต่อทันที ซึ่งคนใช้อาวุธปืนเป็นย่อมรู้วิธีการอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตได้ร้องขอความเป็นธรรมให้มีการโอนสำนวนคดีให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้ดำเนินการต่อ พลตำรวจโทอัครเดช กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ตำรวจภูธรภาค 2 ทำคดีได้ดีอยู่แล้ว แต่หากตำรวจสอบสวนกลางหรือกองปราบมองว่า อยากทำให้คดีนี้มีความเชื่อมั่น และชัดเจนมากขึ้น ก็ให้กองปราบประเมินอยู่

ส่วนกรณีที่ภรรยาของผู้เสียชีวิต ไม่ไว้วางใจการทำงานของตำรวจภูธรภาค 2 ตนเองขอยืนยันว่าขอให้เชื่อมั่นได้เลย จะให้ความเป็นธรรม และจะไม่มีความช่วยเหลือ แก่กลุ่มคนใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามอยากให้ภรรยาผู้เสียชีวิตเข้ามาให้ข้อมูลและประสานกับตำรวจภูธรภาค 2 โดยตำรวจพร้อม ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัย ขอให้ทำเป็นหนังสือมาก็ยินดีที่จะจัดกำลังไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘อัจฉริยะ’ ร้องน.1 สอบปมตร.นอกรีต พาพวก อุ้มรีดทรัพย์นทท.จีน
"นายกฯ" เน้นย้ำทุกกระทรวง มุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจังต่อเนื่อง
“นายกฯ” เผยครม.ไฟเขียวร่างกม.กาสิโน เชื่อส่งผลดีต่อสังคม
ตูมสนั่น! RCSS ปะทะเดือด SSPP ส่งโดรนบินว่อน-พม่าแห่หนีตายเข้าไทย
"คปท.-ศปปส." ยื่นหนังสือถึงผบ.ตร. เร่งตามเวชระเบียนรักษา "ทักษิณ" นำส่งแพทยสภา
"สรรเพชญ"ฝากนายกฯถกครม.สัญจรสงขลา ดูแก้ปัญหาประมง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคใต้จริงจัง
ฮ่องกงส่งทีมฉก.มาไทยติดตามพลเมืองถูกหลอก
อดีตกุนซือทรัมป์ฟาดอีลอน มัสก์ ปีศาจตัวจริง
"ภูมิธรรม" แจงปม "ทักษิณ" ปราศรัยศึกอบจ.เป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ห่วงโดนร้องทำผิดกม.
ไดอารีทหารเกาหลีเหนือเผยถูกใช้ล่อโดรน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น