“อาจารย์มธ.” ชี้ช่องถล่ม “ว้า” ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งปราบยา-ไล่ข้าศึก

“รศ.ดร.ดุลยภาค” แนะรบ.ไทย รีบตั้งสติทำงานเชิงรุก มัวแต่ตั้งรับ เสร็จ “ว้า” แน่ ชี้ช่องสร้างความชอบธรรมในการรบ ยิงนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งปราบยา-ทั้งไล่ข้าศึก

Top news รายงาน หลังวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ยังไม่มีใครตอบได้ว่า “ว้าแดง” จะถอนกำลังออกจากฐานปฏิบัติการบริเวณชายแดน ตามที่เราขีดเดดไลน์ไว้หรือไม่ รัฐบาลไทยพยายามใช้วิธีการเจรจา วิธีทางการทูต เพื่อลดความสูญเสีย ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่กระแสสังคมกลับมองต่างออกไป หลายคนรู้สึกว่าเราโดนเหยียบหน้า เหยียบจมูก ไหนจะเรื่องว้าแดง ไหนจะเรื่องยิงเรือประมง เหมือนกับว่ามีเพียงแค่เรา ที่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่ฝ่ายเดียวหรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด ทีมข่าว TOPNEWS ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า ท่าทีด้านการต่างประเทศของรัฐบาลไทย ควรมีความแข็งแรง มีการแสดงพาวเวอร์อะไรบางอย่างเพื่อให้เพื่อนบ้านเกรงใจ บวกกับรัฐบาลและกองทัพ ก็ต้องทำงานเป็นเอกภาพมากขึ้น เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ ที่สำคัญควรปรับกลยุทธ์การป้องกันประเทศ ให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น น่าจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ที่ผ่านมา มายด์เซ็ทของเราอาจคิดเพียงว่า เราจะต้องปกป้องอธิปไตยอยู่ในแผนที่ขวานทองของเราอย่างเดียว แต่มันไม่พอแล้ว โจทย์ความมั่นคงมันเปลี่ยนแปลงไปมาก ทุกวันนี้ประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่กระทั่งว้า ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธ ก็ยังคิดที่จะขยายอาณาเขตของตัวเอง ดังนั้น ถ้าเรามัวแต่รอตั้งรับอย่างเดียว มันไม่พอ ต้องปรับมายเซ็ตใหม่ ปรับกลยุทธ์ใหม่ ให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้เพื่อนบ้านเกรงใจ

 

 

ถามว่าสถานการณ์จะไปถึงจุดที่ต้องเปิดศึกรบกันหรือไม่ อาจารย์บอกว่า 15.21 ทุกอย่างจะเดินไปเป็นสเต็ป เมื่อเจรจาไม่เป็นผล การสู้รบก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของมือที่สาม ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ถามว่าถ้ารบกันขึ้นมาจริงๆ ใครจะชนะ ยืนยันว่า ฝั่งไทยไม่เสียเปรียบแน่นอน แต่เราก็ต้องสร้างความชอบธรรม เช่น ใช้โอกาสนี้เป็นการปราบปรามยาเสพติดครั้งใหญ่ และยังถือเป็นการขับไล่กองทหารต่างชาติออกจากราชอาณาจักรอีกด้วย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำอยู่แล้ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาเจรจาเป็นปีๆ แล้วเว้นวรรค รอให้กระแสเงียบไปเอง จริงๆ แล้ว ต้องยึดเรื่องอธิปไตยเป็นตัวตั้ง เพราะถ้ามีการชี้ชัดว่า ว้าล้ำแดนจริง มันเป็นหน้าที่อัตโมนัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องผลักดันออกไปอยู่แล้ว มันไม่ควรจะปล่อยไว้นานแบบนี้

 

อาจารย์ยังกล่าวเสริมด้วยว่า แล้วถึงแม้ว่าทหารไทยจะรบชนะ หรือผลักดันว้าออกไปได้สำเร็จ ก็จะมีปัญหาตามมาอีกว่า มีความพร้อมแค่ไหน ในการบรรจุกำลังพลเข้าไปในฐานใหม่ ที่ยึดคืนมาได้จากว้า แล้วจะบำรุงหน่วยที่ห่างไกลแบบนั้น ในระยะเวลาที่ยาวนานได้แค่ไหน ก็ต้องมานั่งคิดกันให้ดี ไม่ใช่ว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่ยึดมาได้ ก็สูญเปล่า สุดท้าย ว้าก็จะวนกลับมายึดเอาไปอีก แถมกลับมาในรูปแบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิมอีกด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น