วันที่28 ก.ย. 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี บริบูรณ์ ว่า ตนได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว พบว่าขณะนี้มีนักเรียน นักศึกษาทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สนใจฉีดวัคซีน ประมาณ 71% มีบางจังหวัดเด็กสนใจฉีดมากถึง 100% เช่น จังหวัดภูเก็ต และมีไม่ถึง 10 จังหวัด ที่สนใจฉีดวัคซีนต่ำกว่า 50% ซึ่งตนจะมอบหมายให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการไปสำรวจสาเหตุที่มีผู้ประสงค์ฉีดวัคซีนน้อยมาจากอะไร และเร่งทำความเข้าใจต่อไป ซึ่งกระทรวงจะสรุปยอดและทราบจำนวนแน่นอนภายในวันที่ 30 กันยายน นี้
ด้าน นายสุภัทร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมจำนวนนักเรียน นักศึกษาที่ประสงค์ฉีดวัคซีนครบทั้ง 77 จังหวัดแล้ว ซึ่งการรวบรวมรายชื่อครั้งนี้จะครอบคลุมผู้เรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือ ปวช. และปวส. หรือเทียบเท่า รวมถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีอายุครบ 12 ปี และผู้เรียนนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีจำนวนผู้เรียนทั้งหมด 5,048,081 ราย โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน พบว่ามีนักเรียน นักศึกษา ที่ประสงค์รับวัคซีนแล้ว 3,618,166 ราย คิดเป็นร้อยละ 71.67 ยอดนักเรียนนักศึกษาที่ประสงค์ฉีด อย่างไรก็ดีเป็นเพียงยอดเบื้องต้นเท่านั้น เพราะมีบางจังหวัดที่ยังรายงานยอดนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนมายังไม่ครบ ทั้งนี้กระทรวงจะส่งยอดนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนไปให้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ดำเนินการจัดสรรวัคซีนให้นักเรียนก่อน ซึ่งวัคซีนที่เตรียมไว้มีเพียงพอต่อการฉีดให้นักเรียน นักศึกษาแน่นอน
ในส่วนสถานศึกษาแห่งใด ที่พบว่าเด็กไปอาศัยอยู่จังหวัดอื่น ขอให้สถานศึกษารวบรวมรายชื่อส่งกรมควบคุมโรค เพื่อให้กรมควบคุมโรคจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ ส่วนจะได้ฉีดในจังหวัดใดนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดและติดต่อให้เด็กมาฉีดเอง อาจจะให้ไปฉีดที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ หรือประจำจังหวัด อย่างไรก็ตาม หากผู้ปกครองหรือนักเรียนเปลี่ยนใจต้องการฉีดวัคซีนทีหลัง กระทรวงก็จะประสานกรมควบคุมโรคในการจัดสรรควัคซีนให้อีกครั้ง