เปิดคลังแสง-ขุนพล “ว้า” วัดพลังหมัดต่อหมัด 18 ธ.ค.จับตาชายแดนสะเทือน!
ข่าวที่น่าสนใจ
ใกล้ถึงเส้นตาย ที่ไทยขีดให้ว้าแดง ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ชายแดน ภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 18 ธ.ค.นี้แล้ว หลายคนตั้งคำถามว่า ว้าจะถอนกำลังหรือไม่ แล้วถ้าไม่ถอน ไทยจะทำอย่างไร
ล่าสุด ทีมข่าว TOPNEWS ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า 18 ธ.ค.นี้ มีแนวโน้มที่ว้า น่าจะไม่ถอนกำลังทหารออกไป หลังจากนั้นต้องจับตาดูท่าทีของฝั่งไทยว่าจะยังคงเจรจาต่อไป หรือใช้วิธีโน้มน้าวให้ว้าเห็นถึงผลประโยชน์บางอย่างในการตัดสินใจถอนทหารหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าว้าคงไม่เพิ่มกำลังทหารในระดับที่ผิดปกติมากนัก อาจจะมีการเติมกำลังพลเข้ามา แต่คงไม่เยอะมาก แต่ที่รู้ๆ คือว้าต้องตื่นตัวตลอดเวลา เพราะยุทธศาสตร์การรบของว้า คือจะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีข่าวว่าจะต้องเตรียมปะทะกับทหารไทย เชื่อว่ามีการเตรียมแผนตั้งรับไว้แน่นอน
ถามว่าถ้าหากสถานการณ์เดินไปถึงจุดที่ต้องมีการสู้รบกันขึ้นมาจริงๆ กองทัพไทย และกองกำลังว้า วัดกันหมัดต่อหมัดแล้วเป็นอย่างไร อาจารย์บอกว่า ว้ามีกำลังพล 2-3 หมื่นนาย ใช้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ดังนั้นที่ใดที่กองทหารตั้งอยู่ ละแวกข้างเคียง ก็จะมีการขนมวลชนเข้ามาสมทบด้วย เช่น เขตทหาร 171 ในว้าใต้ ก็แบ่งเป็น 4 กองพลน้อย ในบางกองพล ก็จะมีกำลังทหารประมาณ 2-3 พันนาย แต่ที่สำคัญเค้ามีมวลชนติดตามมาด้วย 2-3 หมื่นคน นี่คือการจัดกองกำลังของว้า
ส่วนของไทยเรา มีกองกำลังป้องกันชายแดน คือ กองกำลังผาเมือง กองกำลงนเรศวร เราสามารถจัดหน่วยกรมทหาราบ เข้าไปควบคุมสั่งการ บัญชาการรบ บรรจุกำลังพลเข้าไป ซึ่งปริมาณทหารในกองทัพภาคที่ 3 ก็น่าจะเพียงพอ แต่เราก็มีหน่วยสนับสนุนด้วย เช่น ปืนใหญ่อัตราจร สามารถเรียกอาวุธการยิงพิสัยไกล หรือแม้กระทั่งเครื่องบิน F16 จากหน่วยรบอื่น เข้ามาเสริมได้
ถ้าวัดกันหมัดต่อหมัด ว้าอาจจะมีความเชี่ยวชาญด้านจรยุทธ์ รบบนภูเขาสูง และว้าก็อาจจะมีการเรียกกำลังเสริมได้ ถ้าการปะทะขยายตัว นอกจากนี้ ว้ามีรถถัง มีปืนใหญ่ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ และน่าจะมีการผลิตโดรนมากขึ้น แต่สำหรับไทยเรา ปริมาณทหารราบม้าปืนใหญ่ เรามีศักยภาพ เราไปตั้งฐานปืนใหญ่เพื่อสนับสนุนปฏิการของทหารราบก็น่าจะชิงตีฐานของทหารว้าคืนได้เหมือนกัน ขณะเดียวกันเราก็มีเครื่องบินรบ F16 เรามีปืนใหญ่ที่มีรัศมีการยิงได้ไกลกว่า หนักกว่า และแม่นยำกว่า นอกจากนี้ เรามีเขี้ยวเล็บอีกหลายอย่าง ว้า เป็นเพียงแค่กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ของเราเป็นกองทัพระดับชาติ เรามีกองทหารที่ถูกฝึกมาอย่างมืออาชีพ และยุทธวิธีทางทหารที่เป็นระบบระเบียบ
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าหาก “ว้า” ไปเรียกกลุ่มอื่น ๆ ให้มาร่วมรบ ไทยเราก็ต้องคิดแล้วว่าเราก็อาจจะต้องมาหาพันธมิตรกองกำลังชาติพันธุ์ด้วย ซึ่งกลุ่มสภากอบกู้รัฐชาติไทใหญ่ ของเจ้ายอดศึก มีกำลังพลมากพอสมควรที่จะกดดันว้าได้ รบแนวหน้าได้ นอกจากนี้ เราก็อาจคุยกับทางจีน เพื่อให้ช่วยคุยกับว้าถอนกำลังทหารบางจุด เพื่อไม่ให้สงครามบานปลาย แต่ถ้าจีนไม่ช่วย แน่นอนว่า พลังของสหรัฐก็จะตามมา ดังนั้น ถ้ารบกันจริง ไทยไม่โดดเดี่ยวแน่นอน เพราะเราก็มีลู่ทางทางการทูต ที่จะช่วยพลิกเกมได้เหมือนกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น