เปิดใจนางปิ่นแก้ว ชาวบ้านรายแรกที่ ศาลชั้นต้นตัดสินบุกรุกพื้นที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ รื้อถอนภาย 90 วัน ปรับ 2 แสน ด้าน สจ.คนดังวังน้ำเขียว ย้ำ คดีความยุติลงเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน

วันที่ 15 ธันวาคม 2567 จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มนายทุนในเขตพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีผู้ถูกดำเนินคดีกว่า 400 คดี และมีบางคดีที่มีการฟ้องร้องจนจบสิ้นคดีไปแล้ว แต่บางคดียังคงอยู่ในชั้นศาล

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม นางปิ่นแก้ว เหิมขุนทด อายุ 64 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 5 ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว เล่าว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนเป็นรายแรกในอำเภอวังน้ำเขียว ที่ถูกศาลชั้นต้น ตัดสินคดีให้ออกจากพื้นที่ที่บุกรุก และมีคำสั่งให้รื้อถอนภาย 90 วัน หลังรับสารภาพถูกประบ 4 แสน ลดเหลือ 2 แสน และเตรียมที่จำทำการอุทธรณ์ในชั้นศาล ซึ่งตนรู้สึกท้อกับหน่วยงานรัฐ เพราะที่ดินดังกล่าวตนเองอยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ มีการมอบที่ต่อให้กันทำกิน เดิมที่ที่ดังกล่าวทำการเกษตร และก็มีชาวบ้านจำนวนมากก็ทำการเกษตร ปลูกบ้านพักอาศัย เปิดร้านอาหาร และตนเองก็อยู่มาก่อนที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯจะประกาศพื้นที่ทับซ้อน ต่อมาพบว่าคนในพื้นที่ถูกแจ้งข้อหา และถูกดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านตาดำๆจะมีเงินที่ไหนไปต่อสู้กับหน่วยงานของรัฐ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เรื่องปัญหาที่ดินทับซ้อนของหน่วยงานรัฐ ส่งผลให้ชาวบ้านเสียหาย ชาวบ้านใครจะไปรู้ว่ารู้ว่าพื้นที่ ในตำบลไทยสามัคคี อยู่ในพื้นที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เพราะก่อนหน้านั้นก็มีการพัฒนาเรื่องของ ถนน ไฟ น้ำ และที่สำคัญมีการออกเลขที่บ้าน ก่อนที่หน่วยงานรัฐจะมาส่งเสริมให้ชาวบ้านทำร้านอาหาร ที่พักอาศัย รองรับนักท่องเที่ยว ปัจจุบันยังมีชาวบ้าน ผู้ประกอบการ เตรียมที่ตถูกดำเนินคดีกว่า 400ราย และจะมีเพิ่มเติมอีก จำนวน 200 รายในเร็วๆนี้ จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงใจบาง

ด้าน นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล สจ.อบจ.เขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เผยว่า จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนเดือนร้อนจากคดีความ ในข้อพิพาทที่ดินและการบุกรุก ซึ่งตนอยากให้คดีความยุติลงเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน เพราะชาวบ้านก็ทุกมาพอแล้ว ปัญหาทั้งหมดเกิดจาก ความขัดแย้งการบริหารงานจัดการที่ดิน เช่น กรมที่ดิน กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ยังขาดการประสานงาน การแก้ปัญหาจะต้องมีการประสานงานจากผู้บริหารประเทศ เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวทำงานร่วมกันอย่างถูกต้อง เป้าหมายคือการรักษาที่ดินของประเทศให้คงอยู่ ป้องกันการสูญเสียและการถูกบุกรุก โดยทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการกำหนดแนวเขตให้ชัดเจนลดความเดือนร้อนของประชาชน สร้างพื้นที่ทำกินใหม่ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่แนวเขตที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้และอุทยานฯ ควรมีการตรวจสอบร่วมกัน ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกรมอุทยานแห่งชาติ หลังจากเปลี่ยนรัฐบาลมาหลายชุดก็ยังไม่มสามารถแก้ไขปัญหาได้ อีกทั้งยังมีการรุกลามไปทั่วประเทศในหลายพื้นที่ จึงอยากเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการแก้ไขปัญหา โดยให้ความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานรัฐ เพื่อจัดทำแนวเขตที่ถูกต้อง ว่าจุดไหนพื้นที่ป่า จุดไหนพื้นที่เกษตร ในส่วนโครงการ ONE MAP ในการแก้ไขปัญหารัฐบาลก็ล่าช้ากว่ากำหนด 360 วัน และมีการเพิ่มกรอบเวลา 180 วัน ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ไม่ว่าจะมีการร้องเรียนหลายช่องทางก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ตรวจการแผนดินลงเข้ามาดูในพื้นที่แต่ปัญหาก็ยังไม่คลี่คลาย แม้ว่าประชาขนคาดว่าจะให้เป็นคนกลางในการตรวจสอบความถูกต้องก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”
KIA-PDF ตีวงล้อมพม่า! ทอ.โผล่ช่วย แต่ยิงพลาดเป้า-สอยร่วงพวกเดียวกัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น