พายุไซโคลน “ชิโด” ขึ้นฝั่งและเคลื่อนผ่านเกาะมายอต เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พลังลมที่พัดด้วยความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อความเสียหายอย่างหนักแก่บ้านเรือน อาคารที่ทำการของรัฐบาล และโรงพยาบาล นับเป็นพายุรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 90 ปี ที่พัดถล่มดินแดนโพ้นทะเลฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของช่องแคบโมซัมบิกในมหาสมุทรอินเดีย ระหว่างมาดากัสการ์กับโมซัมบิก
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้เวลานี้อยู่ที่ 11 ราย แต่เชื่อว่าอาจมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนหรืออาจจะถึงหลายพันคน แต่ก็ยากที่จะทราบยอดผู้เสียชีวิตได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ที่ตามหลักศาสนาจะฝังศพใน 24 ชั่วโมง ขณะชาวบ้านคนหนึ่งในกรุง “มามูดซู” เมืองหลวง บอกสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า พวกเขากำลังเผชิญกับโศกนาฏกรรม สภาพเหมือนกับหลังสงครามนิวเคลียร์ เขาเห็นชุมชนหนึ่งที่หายไปทั้งย่าน
คลิปที่ตำรวจฝรั่งเศสบันทึกทางอากาศ แสดงให้เห็นบ้านเรือนประชาชนที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างขึ้นแบบตามมีตามเกิด พังกระจัดกระจายอยู่ทั่วเนินเขาของเกาะแห่งหนึ่งในหมู่เกาะมายอต ซึ่งเป็นจุดพักของผู้อพยพผิดกฎหมายจากหมู่เกาะ โคโมรอส ที่อยู่ใกล้เคียง
ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส แสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย และยืนยันว่าฝรั่งเศสจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีผู้คนหลายหมื่นพยายามข้ามจากเกาะโคโมรอส นอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก ไปยังเกาะมายอต เนื่องจากมีมาตรฐานการดำรงชีวิตดีกว่า และเข้าถึงระบบสวัสดิการฝรั่งเศสได้ กระทรวงมหาดไทยมายอต ระบุว่า มีผู้อพยพผิดกฎหมายไม่มีเอกสารกว่า 1 แสนคนอาศัยอยู่ที่นั่น จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ยากจะรู้ยอดผู้เสียชีวิตหลังพายุพัดถล่ม นอกเหนือจากการฝังศพใน 24 ชั่วโมงตามหลักศาสนา อดีตพยาบาลคนหนึ่ง บอกว่า ผู้อพยพเหล่านั้นไม่กล้ากระทั่งออกมาจากที่พักและขอความช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าจะเป็นกับดักกำจัดพวกเขาออกไปเกาะ และรอจนกระทั่งสายเกินไปที่จะหลบหนีพายุ ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าวิตกเวลานี้ เป็นเรื่องการเข้าถึงอาหาร น้ำและสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่ก่อนพายุถล่ม
เกาะมายอตตั้งอยู่ห่างจากกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เกือบ 8,000 กิโลเมตร หากเดินทางโดยเรือจะใช้เวลาถึง 4 วัน ประชากรบนเกาะมีฐานะยากจนกว่าชาวฝรั่งเศสในพื้นที่อื่น ๆ อย่างมาก และต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงจากแก๊งอาชญากร และความไม่สงบในสังคมมานานหลายทศวรรษสถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างหนัก
หลังถล่มเกาะมายอต พายุไซโคลน ชิโด ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของโมซัมบิก เมื่อเช้าวันอาทิตย์ (15 ธันวาคม) มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย บ้านเรือน โรงเรียนและสถานพยาบาล ถูกทำลายราบหรือเสียหายบางส่วน “เน็ตบล็อกส์” ที่มอนิเตอร์การใช้งานอินเทอร์เน็ต แจ้งผ่าน X ว่าฝนถล่มและลมแรง ก่อความเสียหายแก่ระบบไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่นั่น
ภาพ