ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ รู้ดีกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ในการแสดงความเห็นเรื่องการพบเห็น โดรนปริศนา แถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และนิวยอร์ก มานานหลายสัปดาห์ ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดผวามากขึ้นทุกที ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ถูกวิจารณ์หนักที่ไม่สามารถชี้ชัดได้อย่างชัดเจนว่า เป็นอากาศยานชนิดใดกันแน่และมาจากไหน
เมื่อวานนี้ 16 ธันวาคมตามเวลาสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกมาโต้ว่า รัฐบาลเปิดกว้างและโปร่งใส ยืนยันว่า ส่วนใหญ่ที่พบเห็นกันนั้น เป็นโดรนที่บินอย่างถูกกฎหมาย มีทั้งโดรนเชิงพาณิชย์ โดรนของผู้ชื่นชอบเป็นงานอดิเรก และบางครั้งก็เป็นแค่ดวงดาว ที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโดรน สหรัฐฯไม่พบอะไรที่ส่อเป็นภัยความมั่นคงของชาติ หรือเป็นความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสาธารณะ
เคอร์บี้ กล่าวว่า การประเมินดังกล่าว มาจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่ตรวจสอบ
ข้อมูล เบาะแส และรวบรวมข้อมูลอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้จากประชาชนที่พบเห็น
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯออกมาปฏิเสธเรื่องที่มีรัฐบาลต่างชาติเกี่ยวข้อง รวมถึงคำกล่าวอ้างไปถึงขั้นว่า โดรนที่พบเห็น มาจากยานแม่อิหร่านหรือจีน ลอยลำนอกชายฝั่ง แต่ความกังวลยังไม่หมดไป และยังคงมีการแชร์คลิปที่เชื่อกันว่าเป็นโดรนปริศนากันว่อนโซเชียลมีเดีย โดยมีหลายครั้ง เป็นคลิปการพบเห็นในรัฐแมรีแลนด์ และรัฐเวอร์จิเนีย อีกสองรัฐด้วย
ทรัมป์ ผู้เลือกนักทฤษฎีคบคิดในเรื่องต่างๆ เช่น วัคซีนและนโยบายต่างประเทศมาร่วมรัฐบาล แสดงความเห็นเรื่องนี้ ระหว่างแถลงข่าวครั้งแรกหลังชนะเลือกตั้ง โดยบอกว่า รัฐบาลรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น กองทัพรู้ และประธานาธิบดีก็รู้ คงด้วยเหตุผลบางประการที่พวกเขาต้องการทำให้ผู้คนค้างคาใจ โดยที่ทรัมป์ ไม่ได้ให้หลักฐานอะไรมาสนับสนุนคำกล่าวอ้าง อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 20 มกราคม กล่าวว่า เขาไม่คิดว่า ศัตรูอยู่เบื้องหลังโดรน เพราะหากเป็นศัตรู ก็คงจะถูกยิงทิ้งไปแล้ว แต่ก็เสริมว่า มีอะไรไม่ชอบมาพากล
ก่อนหน้านี้ มีส.ส.รีพับลิกัน ออกมาอ้างว่า พบเห็นโดรนเหนือสนามกอล์ฟของทรัมป์ ในเมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซี ทำให้ทรัมป์ยกเลิกแผนตีกอล์ฟเมื่อสุดสัปดาห์
ทำเนียบขาวถูกวิจารณ์ว่า ขยับตัวล่าช้า ขณะที่ข่าวโดรนปริศนาถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ ยืนยันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมอีกครั้งว่า ไม่มีภัยคุกคามความมั่นคง แต่ ส.ว. ชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในสภาฯ ออกมาเรียกร้องในวันเดียวกันว่า ควรให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯตัดสินใจสอยโดรนได้ง่ายขึ้นหากลงความเห็นว่าเป็นภัยคุกคาม
อีกด้านหนึ่ง สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตัดสินใจปิดน่านฟ้า เหนือฐานทัพอากาศ ไรท์–แพตเทอร์สัน (Wright-Patterson ) ในรัฐโอไฮโอ เป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ช่วงดึกวันศุกร์ที่ 13 เข้าสู่เช้าวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม หลังพบเห็นโดรนปริศนา
บ็อบ พูริตแมน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองบินที่ 88 ฐานทัพอากาศ ไรท์–แพตเทอร์สัน กล่าวว่า โดรนที่พบเห็นคืนนั้น เป็นโดรนขนาดเล็ก แต่จากการเฝ้าติดตาม ไม่พบการรุกล้ำที่กระทบต่อสถานที่ และบุคลกร
ฐานทัพ ไรท์ แพตเทอร์สัน อยู่ห่างราว 8 กิโลเมตรจากเมืองเดย์ตัน เป็นที่ตั้งหน่วยสำคัญของกองทัพอากาศสหรัฐฯ รวมถึงแลบวิจัยกองทัพอากาศ ที่มีภารกิจสำรวจหนทางรับมือกับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อวิถีชีวิต
