ชาวบ้านกว่า 6 หลังคาเลื่อนต้องผวากลางดึก หลับได้ยินเสียงดังเหมือนปูนร้าว ก่อนที่บ้านจะเริ่มทรุดตัวไหลลงแม่น้ำบางปะกง จนทำให้ประตูทางออกจมไปในน้ำ โชคดีที่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงต่างพากันวิ่งมาดู จึงได้ช่วยกันทุบผนังบ้านปูน ช่วยเหลือ 2 ผัวเมียรอดพ้นความตาย เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทางผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ว่าเกิดเหตุการณ์ดินสไลค์ ทำให้บ้านหลายหลังทรุดตัวลงแม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าชาวบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนภูดาษ เทศบาลตำบลแสนภูดาษ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำลังเร่งให้การช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อทำการข้นย้ายสิ่งของเครื่องใช้ออกมาจากตัวบ้านที่กำลังทรุดตัวไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง ด้าน นางพิมพ์ผกา ศิลปรายะ อายุ 56 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 73 เปิดเผยว่าตนเองกำลังนอนหลับอยู่กับสามี ส่วนลูกไปทำงาน จนช่วงเวลา 03.00 น. ได้ยินเสียงดังสนั่นเหมือนกับปูนลั่น ตนเองจึงตื่นขึ้นมาดู ก็พบว่ากำแพงรั้วบ้านได้พลิกคว่ำลงไปในแม่น้ำบางปะกงแล้ว และกำลังมาถึงตัวบ้าน แต่แค่เวลาไม่นานบ้านก็เริ่มทรุดตัว ทำให้ประตูทางเข้า-ออกบ้านเริ่มทรุดตัวจมลงไปในน้ำ แต่โชคดีที่ชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงดังจึงตื่นขึ้นมาดู และให้การช่วยเหลือตนเองกับสามี โดยการทุบผนังบ้านให้เป็นรู เพื่อใช้หนีออกมาจากตัวบ้านและขนสิ่งของบางอย่างที่พอจะขนได้ออกมาไว้ในที่ที่ปลอดภัย ด้านสามีของนางพิมพ์ผกา เปิดเผยว่าตนเองพักอาศัยอยู่ตรงพื้นที่แห่งนี้มาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน ถึงแม้จะเป็นช่วงน้ำท่วมหนักสุด เมื่อปี 2554 ถึงน้ำจะท่วมขึ้นมาเยอะ แต่เมื่อถึงคราวน้ำลด ก็ลดไปตามปกติ มีครั้งนี้ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น โดยเบื้องต้นทางหน่วยงานราชการได้เปิดให้เข้าพักอาศัยภายในอาคารของ รพ.สต.เก่าตรงวัดแสทนภูดาษ เพื่อพักอาศัยชั่วคราวไปก่อน ด้าน พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ เปิดเผยว่า พอทราบข่าวว่าเกิดเหตุการณ์ดินสไลต์ ตนเองจึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ นายสุเทพ กรัสประพันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแสนภูดาษ และเจ้าหน้าที่เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาให้การช่วยเหลือประชาชนเพื่อทำการเร่งขนย้ายสิ่งของออกจากบ้าน เพราะเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ช่วงโค้งน้ำ ทำให้พื้นดินบริเวณนี้เป็นจุดที่น้ำจะแทงเข้ามาตรง บริเวณชั้นใต้ดิน เพราะไม่มีเขื่อนกั้นน้ำเหมือนตรงบริเวณวัดแสนภูดาษ ส่วนบ้านที่ได้รับความเสียหายแล้วในเบื้องต้นมีจำนวน 2 หลังคาเรือน และเสี่ยงภัยอีก 4 หลังคาเรือน จึงต้องรีบขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่เป็นการด่วน เพราะถ้าน้ำในแม่น้ำลดระดับลง ดินจะเกิดการสไลต์ลงอีก แล้วคราวนี้บ้านที่เหลือก็มีโอกาสที่จะทรุดตัวลงทั้งหมด แต่ก็โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ต่างเปิดเผยว่า ตอนช่วงเวลา 03.00 น. ได้ยินเสียงดังน่ากลัวมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์บ้านทรุดตัวได้ถึงขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านที่พักอาศัยบริเวณนี้ ถูกแม่น้ำบางปะกง กัดเซอะผืนดิน ซึ่งเป็นที่อยู่ ที่พักอาศัย และที่ทำกิน จนเกือบจนไม่เหลือแล้ว เพราะโดยปกติบ้านของตนเองห่างจากริมตลิ่งของแม่น้ำบางปะกง เกือบ 20-30 เมตร แต่ทุกวันนี้พื้นดินตรงบริเวณนั้นได้หายไปกับสายน้ำ จนมาถึงตัวบ้านกันแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือ เพื่อสร้างเขื่อนกันดินทรุดตัวให้เลย และถ้าขืนยังเป็แบบนี้คงไร้บ้านให้อาศัย ถึงแม้จะมีโฉนดที่ดินอยู่ในมือ แต่ก็ไม่มีที่ดินหลงเหลือ ข่าวที่น่าสนใจ ข่าวที่เกี่ยวข้อง -