สำนักข่าวต่างประเทศทั่วโลกจับตาและรายงานการแถลงข่าวสิ้นปีของประธานาธิบดีปูติน ซึ่งจัดขึ้นทุกปี รวมทั้งมีการตอบคำถามของนักข่าวรัสเซียและนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น ปูตินยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทางบ้านส่งคำถามเข้ามาจากทุกช่องทางทั่้งโทรศัพท์, ข้อความ, และโซเชียลมีเดีย ปรากฎว่ามีผุ้คนสนใจส่งคำถามเข้ามามากกว่า 2 ล้าน 4 แสนคำถามในช่วง 3 ชั่วโมงแรก
โดยผุ้นำรัสเซียได้เลือกแถลงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นประเด็นแรกเพราะตระหนักดีว่าเป็นประเด็นที่คนรัสเซียสนใจและให้ความสำคัญมากที่สุด รวมทั้งวิตกมากที่สุด เนื่องจากรัสเซียกำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อและสินค้าราคาแพง ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามยูเครน โดยปัญหาเงินเฟ้อรัสเซียพุ่งขึ้นถึง 9.1% ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียเตรียมประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้เพื่อบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อ หลังจากที่ขึ้นไปแล้ว 21% ซึ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี อย่างไรก็ตามปูตินยืนยันว่าเศรษฐกิจรัสเซียขณะนี้ยังมั่นคงแข็งแกร่ง แม้จะมีภัยคุกคามจากภายนอก
ปูตินยังแถลงเรื่องปฏิบัติการสู้รบในยูเครน โดยยืนยันว่าชัยชนะกำลังใกล้เข้ามา ทหารรัสเซียมีการรุกคืบและยึดดินแดนเพิ่มขึ้นทุกขึ้น เชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามปูตินยอมรับว่ายังตอบไม่ได้ว่าจะสามารถขับไล่ทหารยูเครนออกจากคูสค์ได้เมื่อไร แต่รับปากว่าหลังจากขับทหารยูเครนออกไปแล้ว รัสเซียจะจัดการฟื้นฟูคูสค์ โดยได้เตรียมงบไว้แล้ว 1 แสน 8 พันล้านรูเบิ้ล
สำหรับ 4 ดินแดนในการยึดครอง ปูตินกล่าวว่ารัสเซียได้เริ่มเข้าไปลงทุนในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างถนน มีการก่อสร้างถนนวงแหวนโดยรอบทะเลอาซอฟ และจะทำถนนเส้นใหม่เชื่อมเมืองมาริอูโปลไปยังแคว้นโดเน็ตสก์ โดยจะออกแบบและสร้างตามแบบถนนของรัสเซีย นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการที่อยู่อาศัย, และระบบโครงสร้างสาธารณะต่างๆ
ปูตินยังคุยด้วยว่าเทคโนโลยีด้านอาวุธของสหรัฐและชาติตะวันตกเทียบไม่ติดกับของรัสเซีย โดยขีปนาวุธโอเรชนิก ขีปนาวุธนำวิถีไฮเปอร์โซนิกชนิดใหม่ที่รัสเซียยิงไปตกที่เมืองดนิโปรของยูเครนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีความเร็ว 2.5-3 กิโลเมตรต่อวินาที เร็วกว่าเสียงถึง 10 เท่า ไม่มีทางเลยที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของชาติตะวันตกจะสกัดกั้นได้ พร้อมท้าให้ทดลองดูถ้าไม่เชื่อ โดยให้เลือกเป้าหมายเป็นกรุงเคียฟ แล้วรัสเซียจะยิงโอเรชนิกเข้ากลางกรุงเคียฟ และให้เอาระบบป้องกันภัยทางอากาศของชาติตะวันตกยิงสกัดดูว่าจะเอาอยู่หรือไม่
นอกจากนี้ปูตินยังย้ำว่ารัสเซียมีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ถ้ารัสเซียตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม และว่ารัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับยูเครนเพื่อหาทางยุติสงคราม โดยพร้อมจะเจรจากับทุกคนทุกฝ่ายโดยไม่ตั้งเงื่อนไขล่วงหน้า ยกเว้นคนเดียวที่จะไม่คุยด้วยคือผู้นำยูเครน เพราะการเลือกตั้งยูเครนได้เลยไปแล้ว และโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ก็ควรหมดวาระการเป็นผู้นำยูเครนไปแล้ว รัสเซียไม่รับว่าเป็นผู้นำที่ชอบธรรมของยูเครน
สำหรับประเด็นซีเรีย ปูตินยืนยันการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดไม่มีผลต่อความมั่นคงรัสเซีย และขณะนี้กำลังเจรจาขอเก็บฐานทัพรัสเซียสองแห่งไว้ในซีเรียเหมือนเดิม โดยอาจเปลี่ยนมาใช้ในงานด้านมนุษยธรรมแทน ปูตินยังเผยด้วยว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พบและคุยกับอัสซาดซึ่งปูตินอนุญาตให้ลี้ภัยมาอยู่ที่มอสโก ซึ่งปูตินบอกว่ามีแผนจะคุยกับอัสซาดในเร็วๆนี้แน่นอน
ส่วนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ปูตินบอกว่ายังไม่ได้คุยกันเลย และไม่ได้คุยมานานกว่า 4 ปีแล้ว และยังไม่รู้จะได้คุยเมื่อไร แต่พร้อมที่จะคุยหากทรัมป์พร้อม แต่จนถึงขณะนี้ทรัมป์ยังไม่ได้ติดต่อมา