เกษตรกรสาว อดีต นศ.ม.ดัง ชาว อ.ซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขาย ทำรายได้กว่าปีละนับล้านบาท

ชัยภูมิ - เกษตรกรสาว อดีตนศ.ม.ดังชาว อ.ซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขาย ทำรายได้กว่าปีละนับล้านบาท

วันที่ 20 ธ.ค.67 จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหมอกในช่วงเช้า ทำให้พืชผักชนิดต่างๆมีผลผลิตที่งดงามส่งขายได้ราคาดี ขณะเดียวกันเกษตรกร อดีต นศ. ดัง ลาออกจากงานประจำพาครอบครัวที่เคยปลูกมันสำประหลัง พลิกวิกฤตหันมาปลูกฟักทองขายส่งตลาด สร้างรายได้เข้าครอบครัวมีรายได้ปีละนับล้านบาท

อดีตนศ.สาว ม.ดัง (บูรพา วิทยาเขต จันทบุรี) เกษตรกรบ้านวังกุง ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ได้พลิกชีวิต นำความรู้ที่เคยเรียนมานำพื้นที่ไร่ซึ่งเคยปลูกมันสำประหลังปรับเปลี่ยนแนวคิดพาครอบครัวหันมาปลูกฟักทองขายส่งพ่อพ่อค้าที่วิ่งมารับซื้อถึงไร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งเช่นมันสำประหลังประหยัดค่าใช้จ่ายแถมได้ราคาดี โดยเฉพาะปีนี้ ราคา รับซื้อกิโลกรัมล่ะ10 บาทถือว่าได้ราดีพอสมควรทำให้เกษตรเกษตรต้องเร่งเก็บผลผลิตออกขายสู่ตลาดเป็นการด่วน โดยเฉพาะผลผลิตลูกฟักทองที่เกษตรกรเก็บออกสู่ตลาด ในช่วงนี้ ราคา กิโลกรัมละ 10 บาท หนึ่งไร่สารมารถทำเงินให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยต่อไร่ 3-4 หมื่นบาท ใช้ระยะเวลาในการเพาะปลูกเพียง 70-80 วันเท่านั้นเองก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายสู่ตลาดสร้างรายอย่างงดงามให้กับเกษตรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวสำหรับฟักทอง สามารถทำอาหารได้หลากหลายชนิด เช่นแปรรูปเป็นฟักทองทอดกรอบ แกง ทำขนมหวานชนิดต่างๆเป็นที่ต้องการของตลาดมากในระยะนี้

ด้าน น.ส.ศุภาวณี รวดชัยภูมิ อายุ 32 ปี  ชาว ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ เผย ตนเองจบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี และเคยทำงานประจำมาแล้วแต่เนื่องด้วยรายได้ไม่คงที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตจึงได้ลาออกจากงานประจำและนำเอาความรู้เคยเล่าเรียนมาพาพ่อแม่ครอบครัวปรับเปลี่ยนแนวคิดจากเคยปลูกมันสำปะหลังซึ่งมีรายได้เพียงปีล่ะครั้งพลิกวิกฤตหันมาทำสวนฟักทองขายได้เงินเร็วใช้เวลาปลูกเพียง 2 เดือนเศษๆก็สามารถเก็บผลขายสู่ท้องตลาดได้แล้วปีหนึ่งพื้นที่ 26 ไร่สามารถทำเงินให้กับครอบครัวมีรายได้หลักล้านบาทเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งในช่วงแรกๆของการทำสวนฟักทองตนได้ทดลองปลูกฟักทองดูก่อนเพียง 15  ไร่เพื่อเก็บลูกอ่อนไปขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดสดใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พร้อมกับขายเร่ให้กับชาวบ้านตามชุมชนต่างๆต่อมาตนได้รู้จักกับพ่อค้าที่วิ่งรับซื้อฟักทองลูกแก่ และได้แนะนำให้ตนปลูกฟักทองลูกแก่ขายดูเพราะจะน้ำหนักมากกว่าฟักทองลูกอ่อน ตนจึงได้นำความรู้ที่มีหันมาลงทุนปลูกฟักฟองอย่างจริงจังบนพื้นที่กว่า 26 ไร่ฟักทองที่ปลูกมีลูกสวยได้ผลผลิตดีเป็นที่รู้จักของพ่อค้าและฟักสวนตนติดตลาดละเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไปเมื่อปลูกฟักทองเสร็จในทุกๆครั้งก็จะมีพ่อค้าติดต่อจองคิวมาซื้อถึงในสวนปีนี้ราคาตลาดรับซื้อที่กิโลกรัมล่ะ 10บาท ซึ่งตนกำลังทยอยเก็บขายวันล่ะ 8-10 ตันต่อวัน คาดว่าเมื่อเก็บผลผลิตเสร็จจะทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้จากการขายฟักทองนับล้านบาทเลยที่เดียว เพราะถือว่าเปิดตลาดราคาขายได้ดีพอสมควร นอกจากนี้หลังจากเก็บผลผลิตของฟักทองเสร็จ ตนก็จะได้ทำการปรับแปลงมาปลูกข้าวโพดแทน สลับหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป ซึ่งในหนึ่งปีจะสามารถทำประโยชน์จากไร่แห่งนี้ได้ถึงสองครั้งในปีเดียวกัน แตกต่างจากการปลูกมันสำปะหลังมาก ซึ่งในหนึ่งปีถึงจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตเพียงครั้งเดียวหากปีไหนราคาตกต่ำชีวิตก็ยิ่งย่ำแย่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆโดยเฉพาะปีนี้ราคามันสำปะหลังต่ำมาก ตามลานรับซื้อทั่วไปในพื้นที่อยู่ที่ราคา 1.60-2.00 บาทซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของมันสำปะหลังแต่ล่ะชนิดแต่ล่ะพื้นที่อีกด้วย แถมการปลูกมันสำปะหลังดูแลยากกว่าค่าใช้จ่ายต้นทุนที่สูง ขณะเดียวกันยังมีโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วในขณะนี้นั่นก็คือโรคมันใบด่างในมันสำปะหลังจึงทำให้ชาวบ้านเกษตรกรต้องพบเจอเมื่อเกิดโรคผลผลิตที่ได้ก็จะไม่ดีพอขายก็ไม่ได้ราคาอีกด้วยในระยะนี้

 

สำหรับแต่หัวใจสำคัญในการปลูกฟักทองต้องไม่ขาดน้ำ เกษตรกรควรคำนึงถึงแหล่งน้ำเป็นสำคัญเพราะจะทำให้ผลผลิตมีลูกสวยสมบูรณ์ขายได้ราคาดี ต้นทุนค่าแรงงานก็น้อยค่าเมล็ดพันธ์ก็ถูกหนึ่งไร่ใช้เมล็ด1ถุงถุงละ 750 บาท เวลาเก็บก็ไม่ต้อเสียค่าขนส่งมีรถมารับถึงที่ ปีนี้ราคาอยู่ กก.ละ 10 บาทก็ถือว่าได้ราคาพอสมควรสำหรับตนเองเลือกปลูกฟักทองสายพันธุ์ ศรแดง ลายข้าวตอก เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดลูกสวยสมบูรณ์ขายได้ราคาดี หากใครสนใจที่จะมาศึกษาเพื่อเป็นแนวทางยินดีให้คำแนะเพราะอยากให้เกษตรกรมีรายที่ดีขึ้นจากเดิมเช่นสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 062 -1799558

 

 

 

ด้าน นายณัฐพศุตม์ โชติจิรศิริกุล นายอำเภอซับใหญ่ ก็ได้ลงพื้นที่ดูแถวทางในการปลูกฟักทอง พร้อมแนะเกษตรกรให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดให้หันมาปลูกพืชชนิดอื่นเสริม เพื่อป้องกันมันสำปะหลังราคาตกต่ำ ก็ยังมีพืชชนิดอื่นขายได้อีกด้วย โดยเฉพาะฟักทองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกษตรกรควรเพาะเป็นอีกอาชีพ ที่สามารถทำเงินได้ดีแถมยังจะช่วยด้วยแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังที่ตกต่ำให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย โดยเฉาพพื้นที่อำเภอซับใหญ่นั้น เป็นพื้นที่เหมาะสำหรับทำการเกษตรได้หลากหลายชนิด มีเกษตรต้นแบบที่ทำสำเร็จมาแล้วหลายราย ที่พร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรที่อยากปรับเปลี่ยนแนวคิดเพื่อปลูกพืชนิดอื่น สามารถรับคำปรึกษาได้ที่อำเภอหรือเกษตรอำเภอซับใหญ่ได้เพื่อเกษตรกรจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป.

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.สงขลา ร่วมพิธีทางศาสนาและทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องวันคล้ายวันพระราชสมภพ "กรมสมเด็จพระเทพฯ" และวันอนุรักษ์มรดกไทย
“อธิบดีกรมโยธาฯ” เผยอาคารที่สั่งปิดใช้งาน 34 แห่งทั่วไทย ยันไม่อันตราย ขอปชช.อย่าตื่นกลัว
"กรมโยธาธิการและผังเมือง" เปิดเวทีภาคเหนือ ระดมความเห็นทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนผังนโยบายระดับประเทศ
คณะกรรมการและผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีกับ นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย (สายบริหาร) ในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย
"พิพัฒน์" นั่งหัวโต๊ะ เคาะมาตรการเยียวยา "แรงงานไทย-ต่างด้าว" เหตุแผ่นดินไหวตึก สตง.ถล่ม
"ตร.ไซเบอร์" ร่วมธ.กสิกรไทย เปิดปฏิบัติการ "ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน" อายัดเงินส่งคืนเหยื่อแก๊งคอลฯ 2 ราย
"มนพร" กำชับตรวจคุณภาพวัสดุก่อสร้างอาคาร "สนามบินนราฯ" แจ้งผลใน 3 วัน ป.ป.ช.ลุยสอบเหตุ "ซีไอเอส" ปล่อยงานล่าช้า
"ดีเอสไอ" บุกตรวจ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" สนง.ปิดเงียบสนิท พนง.อ้างติดต่อใครไม่ได้
ครั้งแรกของโลก! ศิริราชผลิตกระดูกเบ้าสะโพกไทเทเนียมเฉพาะบุคคลสำเร็จ “ศุภมาส” ชี้เป็นก้าวสำคัญของวงการแพทย์ไทย
กระทรวงเกษตรฯ ครบรอบ 133 ปี ”รมว.นฤมล“ประกาศเร่งขับเคลื่อน "เกษตรมูลค่าสูง-ยั่งยืน" ย้ำ ข้าราชการต้องกล้าต่อสู้เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรไทย ขอให้ทุกคนช่วยดูแลเกษตรกรของพระราชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น