สำนักข่าว AFP รายงานว่า สถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่งตลอดสาย ความยาวเกือบ 20 กิโลเมตร จากใจกลางนครโฮจิมินห์ มีผู้คนไปต่อแถวรอใช้บริการกันแบบมืดฟ้ามัวดิน หญิงชาวเวียดนามในชุดประจำชาติ อ่าวหญ่าย ทหารในเครื่องแบบ พ่อแม่หอบลูกจูงหลานไปรอขึ้นรถไฟใต้ดินสายแรกกันตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดบริการ 10 นาฬิกา และจำนวนมากก็ไม่พลาดไปถ่ายเซลฟี่วันประวัติศาสตร์เก็บไว้เป็นที่ระลึก
เวียดนามอนุมัติโครงการรถไฟใต้ดินในโฮจิมินห์ เมื่อปี 2550 โดยทุนก่อสร้างส่วนใหญ่มาจากรัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยกู้ ประเมินค่าใช้จ่ายไว้ที่ 668 ล้านดอลลาร์ คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ประมาณ 2 หมื่น 2 พัน 858 ล้านบาท ตอนที่เริ่มก่อสร้างในปี 2555 รัฐบาลสัญญาว่าจะใช้เวลาเพียง 5 ปี ปรากฏว่า ใช้เวลาจริงทั้งหมดถึง 17 ปี กว่าที่เมืองหลวงทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะมาถึงจุดนี้ได้ ขณะที่ทุนก่อสร้างบานปลายเป็น 1,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 5 หมื่น 8 พันล้าน)
ขณะที่โครงการระบบขนส่งมวลชนล่าช้าออกไปเรื่อย ๆ รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ก็เพิ่มทบทวี ในเมืองที่มีประชากร 9 ล้านคน ตามมาด้วยปัญหาจราจรติดขัด มลพิษเพิ่มขึ้นและเวลาที่เสียไปกับการอยู่บนท้องถนนก็มากขึ้น บุย เซิน เกือง รองผู้ว่าโฮจิมินห์ กล่าวว่า รถไฟใต้ดินจะตอบสนองความต้องการเดินทางของชาวเมือง และช่วยลดความแออัดบนท้องถนนและมลพิษในเมืองได้ ขณะยอมรับว่า ทางการต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายนับไม่ถ้วน กว่ารถไฟใต้ดินสายแรกจะสำเร็จ
สื่อทางการเวียดนาม รายงานว่า ความล่าช้าในการก่อสร้าง เกิดจากการเบิกจ่ายเงินทุนล่าช้า ปัญหาไม่คาดฝันด้านเทคนิค อุปสรรคด้านบุคลากร และโรคโควิด-19 ระบาด ฝู มิน ฮวง นักวิชาการมหาวิทยาลัยฟุลไบรท์เวียดนาม กล่าวว่า ความล่าช้าและต้นทุนบานปลาย เป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง และเตือนว่า รถไฟใต้ดินสายที่ 1 ที่มีเพียง 14 สถานี จะช่วยบรรเทาการจราจรได้อย่างจำกัดและในระยะสั้นเท่านั้น ถึงอย่างนั้น ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาเขตเมืองของนครโฮจิมินห์ และหวังว่าการถอดบทเรียน จะช่วยให้การก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายอื่นในอนาคต ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดต้นทุนกว่าเดิม
พนักงานออฟฟิศเวียดนามคนหนึ่ง บอกหลังเก็บภาพเซลฟี่ว่า เธอรู้ว่าโครงการนี้ล่าช้ามาก แต่ก็ยังรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่มาใช้บริการ เมืองของเราทัดเทียมกับเมืองใหญ่อื่น ๆ ของโลกเสียที
ฝู จั่น ทหารผ่านศึก วัย 84 ปี บอก AFP ว่า ดีใจที่ได้สัมผัสประสบการณ์การลงไปใต้ดินแบบดี ๆ หลังจากเคยสู้รบกับทหารอเมริกัน จากอุโมงค์ “กู๋จี” เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินอันลือลั่นในไซง่อน หรือโฮจิมินห์ในปัจจุบัน คุณตาเวียดนามท่านนี้ บอกว่า ประสบการณ์ครั้งนี้ ได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมากกับที่เคยลงใต้ดินหลายปีในช่วงสงครามเวียดนาม ที่นี่สว่างและดีมาก และว่า เราเคยสร้างอุโมงค์มากมายเพื่อซ่อนตัวจากศัตรูในอดีต ดังนั้น การก่อสร้างอุโมงค์สำหรับรถไฟก็ไม่น่าจะยากขนาดนั้น แต่ในที่สุด เราก็ทำได้
ข้อมูลจากเวียดนาม เอ็กซเพรสส์ ระบุว่า รถไฟใต้ดินในนครโฮจิมินห์สายที่ 1 (เบ๊นถั่น-เซื่อยเตียน) ซึ่งยังเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกของเวียดนามด้วย มีรถไฟให้บริการ 17 ขบวน แต่ละขบวน มี 3 ตู้ จุผู้โดยสาร 930 คน ( นั่ง 147 ที่ ยืน 783 ) ในขั้นแรก จะให้บริการตั้งแต่ 5 นาฬิกาถึง 22 นาฬิกา รวมประมาณ 200 เที่ยวต่อวัน รถไฟจะมาทุก ๆ 8-12 นาที การเดินทางจากสถานี เซื่อยเตียน ไปยังสถานี เบ๊นถั่น รวม 14 สถานี ( 3 สถานีอยู่ใต้ดิน ) จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที