นายกลงตรวจชัยภูมิสั่งปรับแผนให้เหมาะ สทนช. ยันต่างจากปี 54

โฆษกรัฐบาล เผย “นายก” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมชัยภูมิวันนี้ สั่งปรับแผนจัดการน้ำให้เหมาะกับสถานการณ์ ขณะที่ สทนช. ยืนยันสถานการณ์น้ำต่างจากปี 2554 ระดับน้ำตอนบนของประเทศต่ำกว่าร้อยละ 50 กรมชลประทานปรับแผนเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา

วันที่ 29 ก.ย. -นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงสายวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางไปจังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยเนื่องจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน เนื่องจากมวลน้ำป่าไหลหลากมาจากเทือกเขาภูแลนคา และน้ำล้นตลิ่งจากมวลน้ำจากลำแม่น้ำชี ส่งผลให้น้ำหนุนเข้าในพื้นที่ 16 อำเภอ และได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมแล้ว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและคณะรับฟังรายงานสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย อ.เมืองชัยภูมิ ณ ตลาดสดเทศบาลเมือง และจะเดินทางต่อ เพื่อไปให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลและมอบสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลชัยภูมิ

 

จากนั้น จะรับฟังรายงานจากนายอำเภอจตุรัสและผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดชัยภูมิ เพื่อเร่งการระบายน้ำ และเตรียมแผนป้องกันหากยังมีฝนตกต่อเนื่อง พร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอำเภอจตุรัส ขณะนี้มีน้ำท่วมขังและระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และไหลท่วมเข้ามายังพื้นที่เศรษฐกิจบางส่วนแล้ว

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้บูรณาการแผนบริหารจัดการน้ำวโดยการทำงานอย่างต่อเนื่องซึ่งได้มีมติครม. เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 กำหนด 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 เพื่อทุกส่วนราชการทุกระดับได้เตรียมความพร้อมในการรับมือและป้องกัน เพื่อลดความเสียหายจากการเกิดภัยพิบัติในฤดูฝนนี้ สถานการณ์น้ำขณะนี้ยังแตกต่างจากอดีต โดยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ยืนยันว่าขณะนี้ น้ำบริเวณตอนบนของประเทศอยู่ในระดับต่ำน้อยกว่าร้อยละ 50 ประกอบกับสถานการณ์อุทกภัยขณะนี้เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกเกิน 90 มิลลิเมตร/วัน พ้องกับระดับน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงสิ้นเดือนกันยายนเท่านั้น ซึ่งในช่วง 5 – 10 วันข้างหน้ายังไม่ปรากฎสัญญาณการเกิดพายุ ดังนั้นจะทำให้ฝนจะตกห่างออกไป น้ำที่ยังท่วมขังจะสามารถระบายออกไปได้

 

นอกจากนี้กรมชลประทานได้ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ พร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำจา กพื้นที่ตอนบนที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม สื่อสารกับประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน รวมทั้งเร่งระบายน้ำโดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนนานกว่านี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น