ทุเรียนจีนไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระแบบของไทย

ผลวิจัยจีนชี้ ทุเรียนที่ปลูกในไหหลำ ไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารสำคัญแบบที่พบในทุเรียนไทย

 

เซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์   รายงาน ผลการวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำหรือไห่หนานของจีนพบว่า ทุเรียนที่ปลูในจีนขาดสารอาหารสำคัญที่พบอยู่ในทุเรียนที่ปลูกในไทย โดยพบว่า ทุเรียนหมอนทองที่ปลูกในจีนไม่มี สารเคอร์ซิติน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเลย ในขณะที่ทุเรียนหมอนทองของไทยมีสารเคอร์ซิตินในปริมาณมาก

 

ขณะที่พันธุ์ก้านยาวที่ปลูกในไหหลำ มีสารเคอร์ซินตินต่ำกว่า ก้านยาวที่ปลูกในไทยถึง 520 เท่า และต่ำกว่าหมอนทองของไทยถึง 5 แสน 4 หมื่นเท่า และไม่สามารถตรวจพบกรดแกลลิก สารประกอบที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ,การอักเสบ และมะเร็ง ในทุเรียนก้านยาวของไหหลำ แต่พบอยู่น้อยมากในทุเรียนหมอนทองของไหหลำ ซึ่งผลการศึกษาทุเรียนไทยในปี 2551 พบว่า ทุเรียนหมอนทองของไทยมีกรดแกลลิก 2 พัน 72 ไมโครกรัมต่อทุเรียน 100 กรัม สูงกว่าปริมาณกรดแกลลิกที่พบอยู่ในทุเรียนหมอนทองจีนถึง 906 เท่า

 

จาง จิง หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันวิจัยซานย่า หนานฟาน แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำ อธิบายว่า ความแตกต่างของสภาพอากาศและปริมาณแร่ธาตุและสารอาหารในดิน น่าจะส่งผลต่อการสะสมสารอาหาร ในระหว่างกระบวนการเจริญเติบโตของทุเรียน ซึ่งอาจส่งผลให้มีสารบางชนิดในปริมาณที่สูงขึ้น ในขณะที่บางชนิดอาจไม่มี

 

ในบทความที่ตีพิมพ์ใน Food and Fermentation Industries วารสารภาษาจีน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นักวิจัยระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระหลักที่พบในทุเรียน 3 ชนิดที่ศึกษา คือ พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และมูซังคิง ได้แก่ สารโปรไซยานิดิน บี1, คาเทชิน และเควอซิติน และผลการศึกษาบ่งชี้ว่า พันธุ์ก้านยาวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด

 

จีนเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยซื้อผลผลิตส่งออกทั่วโลกถึงร้อยละ 95 ในปี 2561 จีนได้เริ่มปลูกทุเรียนในปริมาณมากในมณฑลไหหลำ ซึ่งเป็นเกาะเขตร้อนเพียงแห่งเดียวของประเทศที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการปลูกทุเรียน

 

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินซี โพแทสเซียม ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่นๆ ซึ่งไม่มีในผลไม้อื่น การศึกษาวิจัยของไห่หนานได้เน้นไปที่สารโพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง เบาหวาน และหัวใจ เพื่อประเมินปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระของทุเรียนที่ปลูกในประเทศ ทีมงานได้เก็บตัวอย่างทุเรียนที่สุกแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์จากต้นทุเรียนในอำเภอหลี่ถิงและเหมี่ยวทางตอนใต้ของไหหลำ

 

อย่างไรก็ตามจางกล่าวว่า ผลการศึกษายังไม่สามารถใช้เป็นข้อบ่งชี้ถึงทุเรียนที่ปลูกในไหหลำทั้งหมด เนื่องจากเป็นการเก็บตัวอย่างจากสวนเพียงแห่งเดียว ซึ่งหลังจากนี้ทีมวิจัยจะขยายการเก็บตัวอย่างไปยังสวนอื่นๆ ในพื้นที่ และตั้งเป้าจะปรับปรุงสารอาหารต่างๆให้เพิ่มขึ้น โดยการศึกษาครั้งก่อนแสดงให้เห็นว่า ทุเรียนสามารถนำมาใช้สร้างอาหารเสริมเพื่อช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยพบสารที่ช่วยในการฟื้นฟูรังไข่อีกด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บขส.จัดรถโดยสารกว่า 4,800 เที่ยว รถเสริมอีก 1 พันคัน รองรับปชช.เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่
เซเลนสกี้เดือดรัสเซียระดมยิงวันคริสต์มาส
"นิพนธ์" ชี้ "กระจายอำนาจ" สร้างเข้มแข็งชุมชน สำคัญต่อการพัฒนาปท.ยั่งยืน นโยบายรัฐแจกๆไม่ใช่คำตอบ
"รมว.สุดาวรรณ" ลงพื้นที่สกลนคร เป็นประธานกิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว
"นพดล" แถลง 6 ข้อ ปม MOU44 ย้ำชัดไทยไม่เสียดินแดน
ระทึก เพลิงไหม้รถบัสปลดระวางเสียหาย 9 คัน เร่งหาสาเหตุที่แท้จริง
“อนุทิน” เปิดศูนย์ป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 คุมเข้ม 10 วันอันตราย กำชับตำรวจใช้มาตรการกฎหมายเคร่งครัด
เปิดยอดผู้เสียชีวิต เหตุ 'เครื่องบินอาเซอร์ไบจาน' โหม่งโลก พบรอดตายปาฏิหาริย์เพียง 25 ราย
ศาลรธน.มติเอกฉันท์ ตีตก 2 คำร้อง ปมกกต.จัดเลือกตั้งสว.ปี 66 โดยมิชอบ
มิตรภาพกุศลจิต "อนุทิน" ขอบคุณ "หมอพัชร" เป็นสะพานบุญ โทรตามบินรับหัวใจ จากร้อยเอ็ดส่งกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น