ข่าวที่น่าสนใจ
โดยอาจารย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจบริเวณ อ.ปางมะผ้า ขึ้นไปพื้นที่ชายแดน แล้วเลียบมาในผืนป่า อ.ปาย ในส่วนของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำลาง แม่น้ำสายสำคัญของแม่ฮ่องสอน โดยจุดนี้อยู่ใกล้กับฐานทหารว้าแดง ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ โดยสิ่งที่พบก็คือ มีฐานทหารว้าแดงที่ตั้งฐานอยู่บนสันเขา จุดที่สำคัญคือบริเวณหนองหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากสันเขา ที่เป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ลงมาทางใต้ ประมาณ 1-2 กิโลเมตร ตรงนี้ชัดเจนมากว่า ทหารว้าตั้งฐานล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย
นอกจากนี้ อาจารย์ยังกล่าวด้วยว่า บางจุดที่มันชัดเจนว่ารุกล้ำ เราก็ต้องเทคแอคชั่นแบบรวดเร็ว ไม่อยากให้เอาแต่นึกถึงว่า ถ้ามีการสู้รบแล้ว จะกระทบกับภาคธุรกิจ หรือการท่องเที่ยว เพราะถ้าคิดแบบนี้ แสดงว่าเรารบไมได้เลย เราผลักดันอะไรไม่ได้เลย ทั้งตลอดปี และตลอดไป ต้องอย่าลืมว่าถ้าปล่อยไว้ กองกำลังต่างชาติก็จะยึดพื้นที่ส่วนนั้นไป และจะขยายอาณาเขตอย่างเข้มข้น แน่นอนว่าเราก็จะสูญเสียผลประโยชน์ของประเทศชาติ ในระยะยาวไปโดยปริยาย
ที่ผมเป็นห่วง เพราะจากการที่ได้ไปลงพื้นที่มา บริเวณนั้นมันมีความอุดมสมบูรณ์ในเชิงนิเวศวิทยา มันเป็นแหล่งต้นน้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำลาง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของ จ.แม่ฮ่องสอน ดังนั้นการที่ไม่เร่งผลักดันออกไป ปล่อยให้ว้าคุมต้นน้ำ อนาคตก็จะยิ่งแย่กว่าเดิม
สิ่งที่ผมอยากฝากถึงกองทัพ ถ้าอยากเน้นการเจรจา ก็ควรกำหนดกรอบเดดไลน์ให้ชัดเจน ให้จบแบบรวดเร็ว เพื่อให้ทหารว้าถอนออกไป แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเดดไลน์ ก็ไม่ต้องขยายอีกแล้ว แสนยานุภาพในเรื่องของสงครามก็ต้องงัดมาใช้ แล้วก็บังคับใช้กฎหมายอาญา จัดการกองกำลังต่างชาติที่อยู่ในประเทศ ตำรวจกับทหารก็ต้องร่วมมือกัน แล้วก็ไม่ต้องไปถามใครอีกแล้ว เพราะบางจุดที่มันล้ำเข้ามา ลึกถึง 1-2 กิโลเมตรแล้ว ในอนาคตถ้าปล่อยให้ล้ำเข้ามามากถึง 5-10 กิโลเมตร ยังจะต้องไปถาม ไปขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ อีก ผมก็คิดว่ามันไม่ใช่หลักการปกป้องอธิปไตยแล้ว มันกลายเป็นการเปลือยอธิปไตย ให้หน่วยงานของประเทศอื่นๆ เข้ามาควบคุมแทนเรา มันต้องไม่ใช่แบบนั้น การปกป้องอธิปไตย เป็นสิ่งที่รัฐในต่างประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการ ประชาธิปไตย รัฐเล็ก รัฐใหญ่ เวลามีกองกำลังต่างชาติเข้ามา ตั้งล้ำแดนพื้นที่ของเค้า หลายประเทศก็ต้องรีบใช้กำลังผลักดันออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีประเทศไหนปล่อยมาเนิ่นนานแบบเราอีกแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
