วันที่ 29 ก.ย. –นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ปีนี้น้ำไม่ท่วมใหญ่แน่นอน มีคนถามมามากว่าช่วยวิจารณ์หน่อยปีนี้น้ำจะท่วมใหญ่เหมือนปี 54 หรือไม่ จึงขออธิบายแบบเอาปี 54 เป็นตัวหลัก แล้วเอาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไปเทียบเคียง 1. ปี 54 ฝนมาเร็วกว่าปกติ (มี.ค.) และปริมาณฝนทั้งปีมากถึง 2257 ม.ม. ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 70 ปี มากกว่าปีปัจจุบันถึง 35% ซึ่งมีฝนเพียง 1300 ม.ม. เท่านั้น 2. ปี 54 มีพายุถึง 5 ลูก ขณะที่ปีนี้มีพายุเล็กๆลูกเดียว 3. ปี 54 มีร่องมรสุม (ร่องฝน) ยาว 6 เดือนตั้งแต่เดือน พ.ค. จนถึง ต.ค. แต่ปีนี้ร่องฝนเกิดสั้นๆและก็หายไปแล้ว (แต่ก็อาจเกิดใหม่ได้)
นายปลอดประสพกล่าวอีกว่า 4. ปี 54 อ่างเก็บน้ำเกือบทุกอ่างมีน้ำมากกว่า 90% มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 53 ส่วนขณะนี้มีน้ำต่ำกว่า 50% เป็นส่วนใหญ่ (แปลว่าหากมีฝนมาอีกยังสามารถเก็บกักหรือชะลอไว้ได้) 5. ปี 54 น้ำท่วมมากถึง 65 จังหวัด โดยเฉพาะแม่น้ำยมมีน้ำมากถึง 6000 ล้านลูกบาศก์เมตร (มากที่สุดเท่าที่เคยมี) แต่ในปัจจุบันเป็นการท่วมเฉพาะจุด (localized) 6. ปี 54 น้ำจำนวนมากกว่าความจุของเขื่อนภูมิพล 8-10 เท่า ไหลทั้งตามลำน้ำและแผ่เข้าที่ราบลุ่มแล้วหลากผ่านภาคกลางและกทม.เพื่อ ลงทะเลในช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุด ในขณะที่ปัจจุบันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก 7. ปี 54 น้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีมากมหาศาลถึง 3000 – 4000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที แต่วันนี้มีน้ำไหลระหว่าง 1500-2000 ลบ.ม./วินาทีเท่านั้น (เกือบปกติ)
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า โดยสรุปคือ พายุหรือฝนปีนี้ถือว่าธรรมดามากเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2554 (พูดแบบสนุกขำขันก็คือช้างกับไก่) แต่ที่ท่วมตอนนี้มีลักษณะเป็นจุดๆ ไม่ได้แผ่ไปในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ดังนั้น จึงขอพูดด้วยความมั่นใจว่า ปีนี้น้ำไม่ท่วมใหญ่โดยเฉพาะกทม.แน่ แต่ก็ต้องขอร้องว่า อย่าไปสั่งเจ้าหน้าที่เขาว่า ที่ไหนท่วมได้ ที่ไหนท่วมไม่ได้ หรือที่ใดควรระบายน้ำไปก่อนหรือหลังเด็ดขาด การไปเยี่ยมเยียนก็เช่นกันควรจะไปตอนฟื้นฟูดีกว่าที่จะไปตอนเผชิญเหตุ เพราะช่วงดังกล่าวเจ้าหน้าที่เขาต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือราษฎร และราษฎรส่วนใหญ่ก็ไม่สะดวกที่จะเดินทางมา ด้วยเห็นกับประโยชน์ส่วนรวม ขอท่องมนต์ที่รัฐบาลท่านนายกยิ่งลักษณ์ใช้แก้ปัญหาการระบายน้ำ 8 ข้อให้ฟังคือ 1. ป่าและดินที่ดีจะช่วยซับน้ำ 2. เขื่อน ณ จุดที่เหมาะสมจะช่วยเก็บและชะลอน้ำ 3. สู้ไม่ได้ให้ปิดกั้นเสีย (เมือง นิคมฯ) 4. ระหว่างทางน้ำไหลต้องมีแก้มลิง 5. ลำน้ำบางจุดต้องมีคัน 6. ต้องมีระบบระบายน้ำ (ขณะนี้มีแต่ระบบส่งน้ำ) 7. คลังข้อมูลต้องหลากหลายและใช้ได้ทันที 8. องค์กรบริหารต้องมีประสิทธิภาพ
นายปลอดประสพกล่าวด้วยว่า ปีนี้ประเทศไทยอยู่ภายใต้ภาวะลานีญ่า คือลมจากมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกจะนำความชื้นมาทางตะวันตก (ประเทศไทย) เพราะฉะนั้นอย่าประมาท อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะภาคใต้ในช่วงปลายปี รัฐบาลต้องป้องกันน้ำท่วมให้ได้ ในการนี้แม้ตนจะไม่ค่อยชอบในบางมุมของท่านนายกประยุทธ์นัก แต่เพื่อความสุขของประเทศและประชาชนไทย ตนก็จะสวดมนต์ขอพรให้(ตามคำขอ)