30 ธ.ค.2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้นำเสนอ “ที่สุด” ในหลากหลายเรื่องในแต่ละช่วงเดือนของปฏิทินจากสถานการณ์คดีทางการเมืองตลอดทั้งปี 2567 เพื่อเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ของสิทธิมนุษยชนไทย และขอเชิญชวนประชาชนร่วมจดจำเรื่องราวเหล่านี้ไปด้วยกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เดือนมกราคม: บัสบาส มงคล ถิระโคตร แนวร่วมม็อบ 3 นิ้วจากเชียงรายถูกลงโทษจำคุกคดี ม.112 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวม 54 ปี จากการโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ รวม 27 โพสต์ ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2564 ปัจจุบันบัสบาสยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงราย และไม่ได้สิทธิประกันตัวในระหว่างฎีกา

เดือนกุมภาพันธ์: 2 นักข่าว ได้แก่ นายณัฐพล เมฆโสภณ หรือ “เป้” นักข่าวประชาไท และนายณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ หรือ “ยา” ช่างภาพอิสระ ถูกตั้งข้อหาสนับสนุนพ่นสีกำแพง “วัดพระแก้ว” ปัจจุบันคดีของทั้งสองยังอยู่ในชั้นสอบสวน โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน อ้างว่าภายใต้ความกังวลต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ที่ต้องถูกกล่าวหาดำเนินคดีจากการปฏิบัติหน้าที่

มีนาคม: ม.112 ในสายตาโลก – ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ UN เรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดี ม.112 กับประชาชน หลังนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบ 3 นิ้ว ตัดสินลงโทษจำคุก 4 ปี ในคดี 112 ทั้งหมด 2 คดี รวมเป็นโทษจำคุกทั้งสิ้น 8 ปี

เมษายน: ผู้ต้องขังทางการเมืองเยอะที่สุดในรอบปี ถึง 46 ราย ก่อนจะลดลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี เมื่อผู้ต้องขังที่คดีสิ้นสุดหลายคนได้รับการปล่อยตัว หลังมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พ.ศ.2567

พฤษภาคม: บุ้ง เนติพร แกนนำม็อบทะลุวัง เสียชีวิตในเรือนจำ ในระหว่างการคุมขัง ในคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งจำคุก 1 เดือนในคดีละเมิดอำนาจศาล และต่อเนื่องมาในคดีมาตรา 112 ทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ ยังต้องติดตามการไต่สวนการตาย ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 13 มกราคม2568 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี เวลา 13.00 น.

มิถุนายน: ประชาชนรวมพลังโหวตเห็นด้วย ดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน เข้าสภาผู้แทนราษฎร โดยประเด็นใจกลางสำคัญ คือปัญหาเรื่องมาตรา 112 ว่าควรถูกรวมในการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ และการต่อสู้นี้ยังสืบเนื่องไปในปีใหม่นี้