ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (30 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐฯจะส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ยูเครน รวมเป็นมูลค่าเกือบ 2 พัน 500 ล้านดอลลาร์ แยกเป็นแพคเกจอาวุธ 1 พัน 250 ล้านดอลลาร์ ที่ไบเดนใช้อำนาจประธานาธิบดีในการเบิกถอน เปิดทางให้กองทัพดึงอาวุธในสต็อกที่มีอยู่ ส่งไปให้กับยูเครนได้เร็วขึ้น อีกส่วนเป็นแพคเกจอาวุธระยะยาวมูลค่า 1 พัน 220 ล้านดอลลาร์ ที่จะทำสัญญากับอุตสาหกรรมอาวุธ ผ่านโครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงยูเครน หรือ USAI ( Ukraine Security Assistance Initiative)
อาวุธที่เบิกถอนจากสต็อกในแพคเกจล่าสุด รวมถึง โดรน เครื่องกระสุนระบบป้องกันทางอากาศ เครื่องกระสุนสำหรับไฮมาร์ส หรือ ระบบยิงจรวดด้วยปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง , กระสุนปืนใหญ่ 155 มม. และ 105 มม. กระสุนชนิดอากาศสู่พื้น , จรวดต่อต้านรถถัง , ระเบิดขว้าง และอะไหล่ต่างๆ
นอกจากความสนับสนุนด้านอาวุธ เจเนต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯยังจะมอบความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ 3 พัน 400 ล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครน เพื่อนำไปใช้จ่ายด้านงานบริการที่สำคัญ เช่น เงินเดือนพนักงานภาครัฐ บุคลากรโรงเรียน สาธารณสุขและหน่วยกู้ภัย
ไบเดน กล่าวว่า เวลานี้ รัฐบาลของเขาได้จัดสรรงบช่วยเหลือยูเครน ที่สภาคองเกรสอนุมัติให้มาในปีนี้ทั้งหมดแล้ว และเขาได้กำชับให้รัฐบาล เดินหน้าส่งความช่วยเหลือทางทหารให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่เขาจะพ้นจากตำแหน่ง
การให้ความช่วยเหลือรอบล่าสุดตามที่ประกาศเมื่อวาน เท่ากับสหรัฐฯได้มอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครน กว่า 6 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์ ( กว่า 2.2 ล้านล้านบาท) นับจากรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อกุมภาพันธ์ 2565
การให้ความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่ มีขึ้นขณะที่รัสเซีย ระดมโจมตีโครงสร้างพลังงานอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และสองฝ่ายยังสู้รบกันหนักหน่วงในคูสค์ แคว้นชายแดนติดกับยูเครนที่รัสเซียส่งทหารเกาหลีเหนือหลายพันคนไปเสริม เพื่อทวงดินแดนที่ยูเครนยึดไว้กลับคืน ขณะที่ รัฐบาลไบเดนพยายามเติมอาวุธ เพื่อให้รัฐบาลเคียฟอยู่ในสถานะแข็งแกร่งที่สุด ในการเจรจาสงบศึกที่อาจเกิดขึ้น ก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดี ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า
ด้านประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ แห่งยูเครน กล่าวว่า การประกาศมอบความช่วยเหลือเกิดขึ้นในห้วงเวลาสำคัญ เนื่องจากรัสเซียพยายามโหมรุกหนัก กระทั่งพึ่งพาทหารเกาหลีเหนือ และรับอาวุธจากเกาหลีเหนือและอิหร่าน เซเลนสกี้เรียกร้องผู้สนับสนุนตะวันตก เสริมความแกร่งทางทหารให้กับยูเครนต่อไป โดยเขาบอกว่า เราต้องเดินหน้าสร้างสันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายสันติภาพร่วมกัน ในปี 2568