บขส.เตรียมพร้อม คาดวันนี้ผู้โดยสารเดินทางกลับกรุงเทพฯ 9 หมื่นคน
ข่าวที่น่าสนใจ
1 ม.ค.68 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้กำชับให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 1 – 3 มกราคมนี้ หลังจากวันหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยเน้นย้ำในเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยของรถโดยสารและพนักงานขับรถให้เป็นไปตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
ด้านนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการเดินรถเมื่อวานนี้ (31 ธันวาคม 2567) มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 53,506 คน เที่ยวกลับ จำนวน 58,749 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 112,255 คน ใช้รถโดยสาร บขส. รถร่วม และรถตู้ เที่ยวไป จำนวน 3,285 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 3,556 เที่ยว รวมทั้งสิ้น จำนวน 6,841 เที่ยว
“ส่วนวันนี้ (1 มกราคม 2568) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ย 70,000 – 90,000 คน ใช้รถโดยสาร บขส. รถร่วม และรถตู้ เฉลี่ยวันละ 4,200 – 4,500 เที่ยว โดย บขส.ได้กำชับให้นายสถานีเดินรถทั่วประเทศเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ จัดรถโดยสารและพนักงานขับรถให้เพียงพอพร้อมบริการประชาชน ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง” นายอรรถวิท กล่าว
นายอรรถวิท กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ บขส.ได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ โดยรถโดยสาร บขส.ที่จะเข้าส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ทุกคัน จะจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 3 เพื่อให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีแดง รถเมล์ รถแท็กซี่ได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสาร (รถเมล์) เข้าจอดรับ – ส่ง บริการประชาชนในสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2, เพิ่มการจัดคิวให้บริการแท็กซี่ เพื่อความสะดวกและเป็นระเบียบ ไม่แออัด รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนา
“ด้านความปลอดภัย บขส.ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถก่อนเดินทางทุกคันทุกคน ตาม Checklist และ จุด Checking Point ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน ตรวจสารเสพติด และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ใช้ความเร็วรถโดยสารไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เป็นต้น” นายอรรถวิท กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น