ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ยูเครเนียน ทีวี ออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาเชื่อว่า ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีความต้องการจริง ๆ ที่จะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และว่า ทรัมป์มีความแข็งแกร่งและคาดเดาได้ยาก และเขาอยากจะเห็นการใช้ “ความสามารถในการคาดได้ยาก” ของทัรมป์ มาใช้กับรัสเซีย คุณสมบัติที่เขาเชื่อว่าจะช่วยยุติสงครามได้สำเร็จ
ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยโลกกำลังจับตาดูว่า เขาจะยุติสงครามที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 ปี ภายใน 24 ชั่วโมงทันทีทีหวนคืนทำเนียบขาวได้อย่างไร ขณะที่รัฐบาลเคียฟหวั่นเกรงมาตลอดว่า จะถูกบีบบังคับให้ยอมยกดินแดนให้กับรัสเซีย
นับจากชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน เซเลนสกี้ พยายามสร้างสะพานไปหาทรัมป์และทีมงานของเขา เพราะวิตกด้วยว่า พรรครีพับลิกันที่คุมสภาคองเกรส อาจชะลอความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน หรือหยุดมอบความช่วยเหลือไปเลยแบบสิ้นเชิง
เซเลนสกี้ ยังสนับสนุนแนวคิดที่จะให้ฝรั่งเศส ส่งทหารรักษาสันติภาพเข้าไปในยูเครน เพื่อเป็นหลักกันข้อตกลงสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่มองว่าฝรั่งเศสประเทศเดียว หรือสองประเทศ อาจจะไม่เพียงพอ และหวังว่านี่จะเป็นก้าวแรกของหนทางเข้าเป็นสมาชิกนาโต
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เป็นผู้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการส่งทหารตะวันตกเข้าไปยังยูเครนมาก่อนหน้านี้ โดยบอกเมื่อปีที่แล้วว่า ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ ที่จะต้องประจำการทหารตะวันตกในภาคพื้น
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ยอมรับว่า กองทัพยูเครนอยู่ในภาวะกดดันและอ่อนล้า หลังจากต้านทานทหารรัสเซียที่รุกโจมตีอย่างไม่ลดละ
อีกด้านหนึ่ง สถาบันศึกษาสงคราม ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองในสหรัฐฯ ประเมินว่า รัสเซียสูญเสียทหารราว 40 คนต่อทุก ๆ 1 ตารางไมล์ หรือ 1.6 ตารางกิโลเมตรที่ยึดได้ในปีเดียวกัน
หลักฐานจากการระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์ บ่งชี้ว่า กองทัพรัสเซียรุกยึดดินแดนยูเครน 4 พัน 168 ตารางกิโลเมตร หรือราว 1 พัน 609 ตารางไมล์ ในปี 2567 เมื่อคำนวณอัตราความสูญเสียโดยใช้ตัวเลขประมาณการณ์จากนายพล โอเล้กซานดร์ ซีร์สสกี้ ผู้บัญชาการทหารยูเครน พบว่า ทหารรัสเซียเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ 4 แสน 2 หมื่น 7 พันคน นอกจากนี้ ในภาพรวมพบว่า แม้รัสเซียรุกคืบได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนมานี้ รวมถึงเมืองและหมู่บ้านหลายแห่งทางตะวันออก แต่ไม่มีเมืองไหนมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์หรือเชิงสัญลักษณ์
ดินแดนที่รัสเซียยึดได้ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน คิดเป็น 56.5% จากทั้งหมดที่ยึดได้ในปี 2567 แต่ก็มาพร้อมกับความสูญเสียอย่างมากเช่นกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษ ประเมินว่า รัสเซียสูญเสียทหารในเดือนพฤศจิกายนมากเป็นประวัติการณ์ที่ 4 หมื่น 6 พัน 680 คน เฉลี่ยวันละ 1 พัน 523 คน