โฆษก ศธ. ย้ำชัด “ทรงผมนักเรียน” ยกเลิกแล้ว 100% วอนเปิดกว้างรับความเห็นต่าง ไม่มองข้ามสิทธิเด็ก

โฆษก ศธ. ย้ำชัด “ทรงผมนักเรียน” ยกเลิกแล้ว 100% วอนเปิดกว้างรับความเห็นต่าง ไม่มองข้ามสิทธิเด็ก

Top news รายงาน วันที่ 3 ม.ค.68 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีข้อเรียกร้องการไว้ทรงผมของนักเรียน เน้นย้ำยกเลิกระเบียบ “ทรงผมนักเรียน” โดยให้สถานศึกษาเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนของผู้เรียนเป็นสำคัญ พร้อมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ความสัญคัญเรื่องสิทธิเสรีภาพของผู้เรียน ส่งเสริมความหลากหลายและเป็นธรรมในทุกด้าน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โฆษก ศธ. กล่าวว่า จากการที่มีข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ขอชี้แจงว่าระเบียบดังกล่าวได้ถูกยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษารวมถึงออกเป็นหนังสือสั่งการแจ้งเวียน ซึ่งได้ระบุให้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งครู นักเรียนและผู้ปกครอง และเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนก่อนการประกาศใช้เพื่อความชัดเจนในการกำหนดแนวปฏิบัติ ซึ่งสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามความเหมาะสม

กระทรวงศึกษาธิการ ขอย้ำชัดว่ามีหนังสือยกเลิกระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2566 ฉะนั้น “ทรงติ่งหู” หรือ “ทรงขาว 3 ด้าน” จะไม่ถูกเรียกว่า “ทรงผมนักเรียน” อีกต่อไป เพราะไม่มีการระบุความสั้น/ยาวของทรงผมนักเรียนชายและนักเรียนหญิงแล้ว ส่วนการจะกำหนดให้ผู้เรียนไว้ทรงผมรวมถึงแต่งกายแบบไหนให้เป็นไปตามวิจารณญาณของสถานศึกษา โดยให้โรงเรียนเปิดช่องทางให้โอกาสผู้เรียนพูดคุยเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกันอย่างสร้างสรรค์

 

 

นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบัน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิผู้เรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการดูแลช่วยเหลือและให้คำปรึกษาให้กับผู้เรียนทุกด้าน ซึ่งมีศูนย์เสมาพิทักษ์ที่ขับเคลื่อนกลไกผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) ในทุกพื้นที่ ถึงแม้จะมีมาตรการที่ดูแลผู้เรียนให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม แต่ก็ไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ ทุกอย่างเป็นไปเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนแสดงออกเชิงพฤติกรรมอย่างเหมาะสม มีอิสระภายใต้กรอบระเบียบที่ป้องกันไม่ให้นำไปสู่ความเสียหายทั้งต่อตัวเด็กเองและเกิดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมในวงกว้าง

 

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกโรงเรียนมีระเบียบที่สร้างขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันในสถานศึกษาอย่างมีความสุขทุกฝ่าย ความเห็นต่างอาจหลากหลาย หลักการคิดอาจไม่ตรงกัน แต่สิ่งที่วางแนวทางไว้ต้องพัฒนาได้โดยไม่ปิดกั้นโอกาสของเด็ก อยากให้เคารพซึ่งกันและกัน ลดการใช้ความรุนแรงทางคำพูดหรือการบุลลี่กระทบกระเทือนจิตใจ จนผู้เรียนรู้สึกว่าถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ การมีระเบียบวินัยเป็นสิ่งดีแต่ต้องควบคู่กับสิทธิมนุษยชนของผู้เรียนด้วย ฝากเป็นกำลังใจให้คุณครูปฏิบัติหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของระเบียบวินัยอย่างมีคุณธรรม เพราะครูเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาความคิดของผู้เรียน หากหาทางออกร่วมกันจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

“วันนี้ การยกเลิกระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นการตีกรอบขีดจำกัดด้านการศึกษา นับเป็นจุดเริ่มต้นของการยอมรับความหลากหลาย ขอยืนยันว่าเราจะร่วมกับทุกภาคส่วนเดินหน้า จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และเติบโตสู่ก้าวที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” นายสิริพงศ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ฝีมือจีน โชว์ลุกนั่งนอนท่ายาก
ทีมคุ้มกันผู้นำเกาหลีใต้ลั่นไม่ยอมให้ปธน.ยุนถูกจับกุม
"กต." ยันเดินหน้าเจรจา "เมียนมา" ปล่อยตัว 4 ลูกเรือไทย
ฮามาสเผยคลิปตัวประกันทหารหญิงเริ่มมีอาการป่วยทางจิต
"ตร.สอบสวนกลาง" เอาจริง ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องแอบอ้างใช้โลโก้ อบรมอาสาตำรวจจีน
ตร.เร่งสอบปากคำพยาน มัดตัวผู้ร่วม "ช่างสันต์" สังหาร "หมวดบรรรัง"
"ดีอี" เตือนข่าวปลอม ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อ ผ่าน TikTok ระวังสูญเงิน-ข้อมูลส่วนบุคคล
รวบตัวแล้ว "โจรขโมยรองเท้า" คนทำบุญตามวัด พบซุกรองเท้าแบรนด์ดังกว่า 50 คู่กองเต็มห้อง
ระทึก ไฟไหม้ "โรงงานเม็ดพลาสติก" กระทุ่มแบน วอดกว่า 10 ล้านบาท
ไร้จิตสำนึก! "ฉก.ราชมนู" จับ 2 คนไทย ลอบขน "ต่างด้าวเถื่อน" ชาวเมียนมา 24 ราย ซุกรถบรรทุกหลบหนีเข้าเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น