ข่าวที่น่าสนใจ
นางสาว พัชริศา กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุกๆ กลุ่มที่ส่งรายชื่อเข้ามา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยา เพราะทางฝ่ายบริษัท ดิ ไอคอน ได้ปลุกระดมให้ถอนแจ้งความ ด้วยเงื่อนไขต่างๆ นานา แต่ตนเองไม่สน เพราะสิ่งที่เราทำได้คือ การมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวลำบากพอแล้ว ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายความ จึงขอใช้ช่องทางตามกฎหมาย ขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด ตนเองมองว่า การระดมปลุกปั่นเป็นการก่อให้เกิดความวุ่นวาย และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งการไปถอนแจ้งความนั้นทำไม่ได้ แต่เป็นการไปบันทึกปากคำใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ตนเองไม่ขอก้าวล่วง
เนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพิจารณาอย่างไร โดยส่วนตัวเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งผู้ต้องหาในเรือนจำออกมา ก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว อีกทั้งยังข่มขู่ว่าจะฟ้องผู้เสียหายทุกคน หากได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากขนาดไหน
ด้านนายสุรเดช หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขอใช้สิทธิในฐานะเป็นคู่คดีกับผู้ต้องหา ที่จะยื่นคัดค้านขอปล่อยชั่วคราว พวกเราเคารพในการตัดสินใจของทางผู้พิพากษา โดยอยากให้ผู้พิพากษาเห็นว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจริงๆ ไม่ใช่ไม่มีผู้เสียหายตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ถึงแม้ท้ายที่สุดจะได้ประกัน ตนเองก็ให้ความเคารพต่อดุลพินิจของศาล เพราะถือว่าพวกเราได้ทำหน้าที่ตามสิทธิของเราตามกรอบ โดยไม่ได้ละเมิดใดๆ ซึ่งทางผู้เสียหายรู้สึกกังวล ถ้าเกิดผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมา ที่ผ่านมาผู้ต้องหาได้ชี้นำสังคมว่า คดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย ทั้งที่พวกเราเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นคู่ความของบริษัท ดิ ไอคอน พวกเราจะสู้ให้ถึงที่สุด ตนเองขอเป็นตัวแทนของผู้เสียหายทั้ง 7 พันคน ที่จะคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ โดยมีเอกสารแนบท้ายที่ทนายความฝ่ายผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะชี้นำสังคม เพื่อเป็นหลักฐานให้ทางศาลพิจารณาด้วย
สำหรับผู้เสียหายที่นำมาแจ้งในตอนนี้ จะต้องมีหลักฐานการแจ้งความ และตรวจสอบว่าเป็นผู้เสียหายจากคดีนี้ที่แท้จริง เพื่อนำหลักฐานทั้งหมดไว้เตรียมยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งในขณะนี้ กลุ่มของตนเองมีผู้เสียหายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วทั้งสิ้น 2,800 คน มูลค่าความเสียหาย 341 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายสุรเดช กล่าวว่า ส่วนกลุ่มตัวแทนบริษัท ดิ ไอคอน ได้ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น มันเป็นสิทธิที่ฝั่งของบริษัท ดิ ไอคอน จะทำได้ จึงไม่อยากก้าวล่วง และไม่ต้องการให้เอาจำนวนคนเข้าไปกดดันกับทางศาล หรืออัยการ เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐานในการพิจารณาคดี ไม่ใช่จำนวนคนที่เข้าไปกดดันแต่อย่างใด พวกเราขอมาทำหน้าที่ภายใต้กฎหมายด้วยการยื่นคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมด จะไม่มีการปลุกม็อบสองฝั่งมาชนกันแน่นอน ส่วนกรณีที่ทนายฝั่งผู้ต้องหาจะฟ้องกลับ ฐานแจ้งความเท็จนั้น ทางกลุ่มผู้เสียหาย ไม่มีความกังวล และจะสู้คดีให้ถึงที่สุด ส่วนผู้เสียหายที่สูงอายุ ขณะนี้กำลังหารือกัน เพื่อจะไปร้องความเป็นธรรมกับรัฐบาล ให้เยียวยาผู้เสียหายกลุ่มนี้ก่อน เพราะไม่อาจจะรอได้คดีถึงที่สิ้นสุดได้ อีกทั้งมีผู้เสียหายบางคนก็เสียชีวิตไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
