นักเที่ยวมีน้ำใจ ส่งหลักฐานบดยาเคใน ‘ร้านเหล้าดังบางใหญ่’ ให้ผู้สื่อข่าว หลังตำรวจตรวจไม่พบ เผยเด็กต่ำกว่า 18 ก็เข้าได้ แค่จ่าย 200 ให้การ์ด แฉจุดอัพยา ล่าสุดผู้เสียหายต้นเรื่องคู่กรณีผับดังย่านบางใหญ่ บุกร้องผู้ว่าฯนนทบุรี หลังคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ล่าสุด ผู้เสียหายที่ถูกผับดังเอาชื่อไปประจานแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม เบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งความเกือบ 100 คนแล้ว ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้คลิปจากพลเมืองดี เป็นคลิปในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ปรากฏภาพนักเที่ยวใช้ขวดน้ำอัดลมบดยาเสพติด

งามหน้า “นักเที่ยว” ส่งหลักฐานบดยาเค ใน “ร้านเหล้าดัง” ย่านบางใหญ่ หลังตร.ตรวจค้นไม่พบ – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลจาก นายเอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวยาเสพติดในสถานบันเทิง รวมถึงยังถูกถ่ายบัตรประชาชนก่อนเข้าไปใช้บริการในร้านด้วย

นายเอ ได้นำคลิปหลักฐานขณะที่นักเที่ยวกำลังบดยาเสพติด (ยาเค) เพื่อใช้เสพมาเป็นหลักฐานให้ผู้ โดยในคลิปเป็นภาพซองยาเสพติดประเภทเคตามีน วางอยู่บนโต๊ะนักเที่ยว โดยภาพชายคนหนึ่งกำลังใช้ขวดน้ำอัดลมบดยาเสพติดบริเวณหน้าห้องน้ำในสถานบันเทิง

นายเอ เปิดเผยว่า สถานบันเทิงแห่งนึ้ตนไปบ่อย ตอนเข้าไปสิ่งแรกที่เจอคือการ์ดร้านประมาณ 5-6 คน คอยยืนตรวจบัตรประชาชน วิธีการตรวจคือเอาบัตรประชาชนมาแนบกับหน้าตน ถ่ายรูปพร้อมเอาไฟฉายส่องเข้าตัว ถามว่าใช่ตัวเองไหม ถ้าเขาเห็นว่าใช่ก็ให้เข้า ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีบ้างแต่ไม่บ่อย ที่เข้าไปแล้วพบเจอเลยคือยาเสพติด เป็นพวกเคตามีน นักเที่ยวที่ไปร้านนี้จะรู้ว่าจุดไหนคือจุดอัพยา จุดไหนคือจุดนั่งกิน โดยเฉพาะเพื่อนตนที่ไปจะไปตรงจุดที่อัพยา สักพักจะออกอาการเมามานั่งที่โต๊ะดื่มต่อ

ตนทราบมาว่า สถานบันเทิงแห่งนี้มีร้านในเครืออีก 2-3 สาขาใน จ.นนทบุรี มีลักษณะรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ทั้งในเรื่องถ่ายบัตรประชาชน แอบปล่อยเด็กอายุไม่ถึงเข้าไปในร้าน ซึ่งหากอายุไม่ถึงแล้วจะเข้าไปใช้บริการ จะต้องเสียเงินคน 200-300 บาท เพื่อแลกกับการให้การ์ดอนุญาตพาเข้าไป นอกจากนี้ยังมีการเปิดเกินเวลา และการเสพยาเสพติดภายในร้าน

สาเหตุที่ตนมาเปิดเผย เพราะอยากให้ยาเสพติดตรงนั้นมันหมดไป อีกทั้งเรื่องการถ่ายบัตรประชาชนของลูกค้าไป อันนี้ไม่ควรทำ ยอมรับว่าร้านนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลใหญ่โต เพราะที่ผ่านมาเกิดเรื่องใหญ่ ๆ ขึ้นที่ร้านแห่งนี้หลายครั้ง แต่ร้านก็ไม่เคยถูกสั่งปิด

ข่าวที่น่าสนใจ

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงาน ลอบขน “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” ที่ถูกอายัดจากปราจีนฯ พร้อมสั่งปิดกิจการ-ดำเนินคดีอ่วม

สุดหดหู่ พบ “ร่างทารก” ห่อโสร่งยัดใส่กระเป๋า จุดธูปเทียนสะกดวิญาณ ก่อนโยนทิ้งคลอง

ล่าสุดวานนี้ (4 ม.ค. 67 ) ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายที่ถูกพนักงานผับดังย่านบางใหญ่ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต้นเรื่อง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (4มค.)นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ ‘กล้าที่จะก้าว’ พาผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว มาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังและคาดว่าน่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลมีคนมีสีหนุนหลัง

เบื้องต้น นายเกียรติศักดิ์ ผู้ว่าฯนนทบุรี รับเรื่องไว้ขอตรวจสอบและให้คำมั่นสัญญากับผู้เสียหายว่า จะให้ความเป็นธรรม และจะนำหลักฐานต่างๆ ที่สถานบันเทิงดังกล่าวถูกร้องเรียน ไปตรวจสอบ เช่นเรื่องเปิดเกินเวลา ปัญหายาเสพติดในสถานบันเทิง ปัญหาทะเลาะวิวาท ปัญหาเสียงดัง โดยเฉพาะการถ่ายบัตรประชาชนของนักเที่ยว โดยไม่แจ้งเหตุผลว่าถ่ายไปเพื่ออะไร ซึ่งผู้เสียหายเกรงว่าจะตกเป็นเหยื่อของขบวนการมิจฉาชีพหรือขบวนการเว็บพนันออนไลน์

นายเกียรติศักดิ์ ผู้ว่าฯนนทบุรี กล่าวว่า ขอร้องเรียนที่ผู้เสียหายมาร้องเรียนโดยตรงกับตนเอง จะนำไปหารือกับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการร้องเรียนเรื่องยาเสพติดการถ่ายบัตรประชาชน การเปิดเกินเวลา พร้อมยืนยันไม่ว่าใครจะยิ่งใหญ่หรือมีใครสนับสนุนหรือเป็นผู้มีอิทธิพล ตนเองก็จะจัดการให้เด็ดขาดหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจริง

ส่วนเรื่องที่มีผู้เสียหายถูกถ่ายบัตรประชาชน ก็ขอให้ผู้เสียหายมาแจ้งความที่สภ.บางใหญ่ เบื้องต้นทราบว่าตอนนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง เกือบ 100 คนแล้ว

ผู้ว่าฯนนทบุรี ยังยืนยันอีกว่า ข่าวที่ปรากฏออกไปว่าได้มีการสั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าวเป็นเวลา 5 วันนั้น ไม่เป็นความจริง การปิดสถานบันเทิงจะต้องมีพยานหลักฐานการกระทำผิดที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ตนเองจะไปตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ถึงจะมีคำสั่งต่อไป

ขณะที่ผู้เสียหายต้นเรื่อง คู่กรณีกับสถานบันเทิง ดังกล่าว บอกว่า รู้สึกสบายใจขึ้นที่มาร้องกับผู้ว่าโดยตรง เพราะยอมรับว่าตอนนี้ไม่ไว้ใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองเป็นแค่นักเที่ยวธรรมดาไม่ได้ต้องการไปมีเรื่องหรือมีปัญหากับใคร การที่ถูกถ่ายบัตรประชาชน โดยอ้างว่าป้องกันไม่ให้ผู้มีอายุไม่ถึงเข้ามาเที่ยว อาจเป็นเหตุผลที่ดี ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร ในเวลานั้น จนกระทั่ง ตนเอง เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ Open แชท มีการพูดคุยชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ จึงเชื่อว่าชื่อและบัตรประชาชนตนเองอาจถูกกลุ่มมิจฉาชีพไปใช้กระทำความผิด

จนกระทั่งเรื่องบานปลาย ตนเองมีปัญหากับแอดมินเพจผับดังกล่าว มีการเอาชื่อรูปตนเองไปแขวนประจาน ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะเจ้าของสถานบันเทิงเป็นผู้มีอิทธิพลมีคนมีสีให้การสนับสนุน ตนเองกลัวว่า กลุ่มวิชาชีพอาจนำบัตรประชาชนไปทำอะไรบางอย่างที่ผิดกฎหมาย

ส่วนเรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย จากนี้ตนเองจะไปแจ้งความที่สนบางใหญ่และ จะไปตรวจร่างกายเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับพนักงานร้าน

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 2 ราย ที่ถูกแอดมินเพจสถานบันเทิงดังกล่าวเอาชื่อไปแขวนประจาน ได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าฯนนทบุรีเช่นกัน ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ไม่เคยไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งนี้ เป็นเพียงแค่นักเล่นโซเชียล หลังมี ดราม่า เรื่อง Admin เพจผับ ดังย่านบางใหญ่ มีปัญหากับนักเที่ยว ก็ได้เข้าไปคอมเม้นในเพจสถานบันเทิงดังกล่าว แต่ Admin เพจกลับไม่พอใจและมีการตอบโต้ จากนั้น Admin เพจก็บล็อกทันที และแขวนชื่อพร้อมประจาน จนได้รับความเสียหายและถูกคุกคามอย่างหนัก

ผู้เสียหาย 2 รายนี้ยังกล่าวอีกว่าเชื่อว่าสถานบันเทิงดังกล่าวต้องมีผู้มีอิทธิพลให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเพราะได้ข้อมูลหลายอย่าง ที่เชื่อได้ว่า เจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว กระทำผิดและพยายามเคลียร์ ให้ไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องยาเสพติด การเปิดปิดเกินเวลา และปัญหาอื่นๆ

มีรายงานข้อมูลเชิงลึกว่า มีกลุ่มขบวนการหนึ่ง ที่เกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมีการนำบัตรประชาชนไปเปิดเป็นบัญชีม้าและมีการเปิด LINE Open chat ดึงนักเที่ยวเข้าไปพูดคุยในกลุ่ม ก่อนที่จะเปลี่ยน LINE Open chat เป็นแชทชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ ในทางสืบสวนยังพบอีกว่า ทราบว่า เว็ปพนันดังกล่าว อาจเป็นเว็บตัวเลขจำนวน 3 หลักที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้(ตระกูล888)

นักเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง