“ผู้เสียหาย” เกือบ 200 ราย บุกแจ้งความสภ.บางใหญ่ ยันถูกร้านเหล้าดัง ถ่ายบัตรปชช. หวั่นตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณี ร้านมูนบาร์ ตั้งอยู่ใน ต.เสาธงหิน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล เมื่อลูกค้าสาวรายหนึ่งซึ่งเข้าไปใช้บริการที่ร้านดังกล่าวแล้วโทรศัพท์มือถือหายถึง 2 เครื่อง เมื่อสอบถามพนักงานร้านกลับมีการโต้เถียงเกิดขึ้น ก่อนที่หญิงสาวจะถูกการ์ดของร้านบีบแขนจนเขียวช้ำ พร้อมท้าทายให้ไปแจ้งความ ต่อมา แอดมินเพจของ The Moon Bar ตามไปขุดคุ้ยข้อมูลของลูกค้าสาวรายดังกล่าว ก่อนนำไปโพสต์ไว้หน้าเพจ ส่งผลให้ชาวเน็ตจำนวนหนึ่ง ออกมาเปิดเผยเรื่องการถ่ายบัตรประชาชนและถ่ายใบหน้าลูกค้าก่อนเข้าไปใช้บริการ แล้วนำไปขายให้กับกลุ่มสีเทา
ต่อมาวันที่ 3 และวันที่ 4 ม.ค.2568 น.ส.ญาณิพัชญ์ ศรีโคตร นายอำเภอบางใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านมูนบาร์ พบมีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ และไม่พบการมั่วสุมหรือการจำหน่ายยาเสพติด รวมทั้งร้านยังปิดให้บริการตามที่กฎหมายกำหนด แต่ยังคงมีข้อสงสัยเรื่องที่ร้านมูนบาร์ถ่ายรูปบัตรประชาชนของลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ กระทั่งเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.68) พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไทย ผู้กำกับการ สภ.บางใหญ่ แถลงข่าวกรณีร้านมูนบาร์ ถ่ายรูปบัตรประชาชนและถ่ายใบหน้าลูกค้าก่อนที่จะเข้าไปใช้บริการ แล้วนำไปขายให้กับกลุ่มสีเทา ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ แล้วกว่า 100 ราย
ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอ้วน (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี หุ้นส่วนร้านมูนบาร์ ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ว่า ทางร้านมีมาตราการการถ่ายภาพบัตรประชาชน ซึ่งจะถ่ายได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้มาใช้บริการ หากผู้ใช้บริการไม่ยินยอม ทางร้านได้กำชับผู้จัดการและพนักงานห้ามถ่ามรูปโดยเด็ดขาด และไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้บริการภายในร้านโดยเด็ดขาด ส่วนการถ่ายรูป ผู้จัดการและพนักงานต้องทำด้วยความสุภาพ โดยถ่ายด้านหน้า ปิดเลขบัตรประชาชน และห้ามถ่ายด้านหลัง จากนั้นให้ถ่ายรูปใบหน้าผู้มาใช้บริการ โดยแยกจากบัตรประชาชาชนอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ยังกำชับให้ผู้จัดการและพนักงานลบข้อมูลทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น ส่วนการบันทึกข้อมูลเพื่อนำไปดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดภายในร้าน ทั้งเหตุทะเลาะวิวาท และการลักทรัพย์เป็นต้น
ประการที่ 2 คือ ช่วยป้องกันปัญหาเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปีมักนำบัตรประชาชนของผู้อื่นมาใช้บริการ และประการที่ 3 คือ ช่วยป้องกันและปราบปรามผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาทิ อาจมีผู้เสพยาเสพติดภายในร้าน จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ไปแจ้งให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ มาควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ร้านนำข้อมูลของลูกค้าไปขายขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันว่า ทางร้านไม่เคยจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่หรือฝ่ายปกครองแต่อย่างใด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันอย่างแน่นอน ปัจจุบันร้าน “เดอะมูนบาร์” ได้ปิดปรับปรุงชั่วคราว 5 วัน หลังพูดคุยกับนายอำเภอ เพื่อปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมมากขึ้น
ล่าสุด (6 ม.ค.68) พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผู้กำกับการ สภ.บางใหญ่ กล่าวถึงกรณีผู้เสียหายซึ่งไปเที่ยวที่ร้านมูนบาร์ และถูกถ่ายภาพบัตรประชาชน ว่า ปัจจุบันมีผู้เสียหายเดินทางมาลงบันทึกประจำวันแล้ว 174 ราย ซึ่ง สภ.บางใหญ่ จะรวบรวมข้อมูลส่งไปให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการนำไปแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ พร้อมฝากไปถึงประชาชนที่เคยไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้แล้วกังวลเรื่องการถูกถ่ายบัตรประชาชน สามารถมาลงบันทึกประจำวันได้ที่ สภ.บางใหญ่ ส่วนที่บอกว่าเจ้าของร้านเป็นลูกคนใหญ่คนโตนั้นตนไม่สนใจ ขอยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน
ด้าน นายโบ๊ท อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางใหญ่ เนื่องจากถูกการ์ดร้านมูนบาร์ ถ่ายรูปบัตรประชาชนโดยไม่ปิดเลข 13 หลัก และถ่ายใบหน้าอีก 1 ภาพ หลังจากมีข่าวออกมาตนรู้สึกไม่สบายใจจึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางใหญ่ ถึงแม้จะทราบข่าวว่าเจ้าของร้านไม่ได้นำข้อมูลของตนไปขาย แต่ตนก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเพราะเกรงว่าจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ส่วนถ่ายรูปบัตรประชาชนหรือข้อมูลส่วนตัว ควรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น