“สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ” ชูทางออกเจรจานำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ดันดุลการค้าสหรัฐฯ ทดแทนแนวคิดนำเข้าหมู

"สมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ" ชูทางออกเจรจานำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ดันดุลการค้าสหรัฐฯ ทดแทนแนวคิดนำเข้าหมู

ท่ามกลางแรงกดดันด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้แนวคิด “America First” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเสนอแนวทางที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ แทนการเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเสียร้ายแรงต่อเกษตรกรและความปลอดภัยทางอาหารในประเทศไทย

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า แม้สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะกดดันให้ไทยนำเข้าสินค้าเกษตร เช่นเนื้อหมู เพื่อลดการขาดดุลกับไทย แต่การยอมรับข้อเสนอนี้จะสร้างผลกระทบมหาศาล เนื่องจากเนื้อหมูจากสหรัฐฯ มีสารเร่งเนื้อแดงเกินมาตรฐานที่กฎหมายไทยกำหนด ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค

“รัฐบาลไทยต้องยืนหยัดปกป้องอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูกว่า 2 แสนคนและรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศให้เข้มแข็ง” นายสิทธิพันธ์กล่าว พร้อมแนะนำแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย นั่นคือการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง

ข่าวที่น่าสนใจ

ประเทศไทยต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ถึง 8.9 ล้านตันต่อปี แต่ยังขาดแคลนถึง 4 ล้านตัน แม้จะรับซื้อผลผลิตของชาวไร่ไทยจนหมดแล้ว ขณะที่ความต้องการถั่วเหลืองและกากถั่วอยู่ที่ 5-6 ล้านตันต่อปี แต่ไทยสามารถผลิตได้เพียง 23,000 ตัน หรือไม่ถึง 1% ของความต้องการ การนำเข้าวัตถุดิบนี้จากสหรัฐฯ ซึ่งมีมาตรฐานการผลิตที่ยั่งยืน เช่น GAP (Good Agricultural Practices) และ RTRS (Responsible Soy) ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของตลาดไทย แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะยุโรปที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวดด้วย

นอกจากนี้ การเลือกนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์แทนการนำเข้าเนื้อหมู ยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศ เช่น ปัญหา PM2.5 ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการลักลอบเผาแปลงเกษตร พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ เช่น การสนับสนุนอุตสาหกรรมไก่ส่งออกของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดยุโรปที่ต้องการมาตรฐาน CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism)

 

“นี่คือทางออกที่ยั่งยืนที่สุด ปกป้องสุขภาพคนไทย คุ้มครองอาชีพเกษตรกร และสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศในเวทีโลก” นายสิทธิพันธ์ย้ำ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเจรจาในแนวทางนี้ เพื่อช่วยเพิ่มดุลการค้าให้สหรัฐฯโดยไม่กระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร เป็นคำตอบที่สามารถรักษาสมดุลทางการค้าและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันยังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของไทยได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ฟิลิปปินส์ กวาดล้างครั้งใหญ่ 'แก๊งคอลเซนเตอร์' กลางกรุงมะนิลา จับกุมต่างชาติเอี่ยวขบวนการ 400 คน
ภรรยา ‘ลิม กิมยา’ นักการเมืองกัมพูชา เข้าให้ปากคำตร. ปมถูกยิงดับกลางกรุง
"เผ่าภูมิ" เผย "สรรพสามิต" โชว์ผลงานปราบสินค้าเถื่อน รวบเหล้านอกพุ่ง 161% จับยาสูบเถื่อนโต 168%
"เจ๊อ้อย" ยื่น ปปง. คุ้มครองสิทธิทรัพย์สิน 71 ล้าน คดี "ทนายตั้ม" ฉ้อโกงฟอกเงิน ลั่นไม่ไกล่เกลี่ยและจะไปสุดซอย
“รัฐบาล” เตือน ธนาคารของรัฐ หรือ กองทุน ไม่มีปล่อยสินเชื่อผ่าน TikTok หวั่นประชาชนตกเป็นเหยื่อ
จนท.สนธิกำลังเร่งดับ "ไฟป่าดงพญาเย็น" วอดกว่า 200 ไร่ หวั่นลุกลามหนัก
"ทนายวิฑูรย์" อัปเดตอาการ "บอสกันต์" ก่อนออกจากเรือนจำ ส่งฟ้องศาลอาญา ยังปกติดี ไม่ยิ้มแย้ม
"ทนายอนันต์ชัย" แจ้งความเอาผิด "อาจารย์เบียร์" คนตื่นธรรม 3 ข้อหา หลังไลฟ์สดพาดพิงบุคคลสำคัญ
ราชทัณฑ์นำตัว 16 บอสดิไอคอน ออกจากเรือนจำ ส่งฟ้องศาลอาญา "ทนายวิฑูรย์" เตรียมพยาน กว่า 100 ปาก พร้อมสู้คดี
"รองโฆษกกรมราชทัณฑ์" แจงแล้ว เหตุดรามาปม "มิน พีชญา" ไม่ต้องตัดผม-แต่งหน้าได้ หลังได้รับอิสรภาพ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น