ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า อาร์กติกอยู่ในขอบเขตผลประโยชน์ของชาติและทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย และรัสเซียให้ความสนใจที่จะดำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพที่นั่น
ถ้อยแถลงของเปสคอฟ มีขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าสหรัฐฯจำเป็นต้องได้เกาะกรีนแลนด์ เขตปกครองตนเองของเดนมาร์กในมหาสมุทรอาร์กติก ที่ร่ำรวยทรัพยากร และคลองปานามา เพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยไม่รับประกันว่า จะใช้พลังทางทหารหรือเศรษฐกิจเข้ายึดครองถ้าจำเป็น ทั้งยังมีความต้องการผนวกแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 อ้างว่าเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศเป็นแค่เส้นสมมติ
เปสคอฟ กล่าวว่า คำกล่าวอ้างของทรัมป์ เป็นเรื่องของสหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก และประเทศอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่รัสเซีย กำลังจับตาสถานการณ์เกี่ยวกับความเห็นของทรัมป์ที่ค่อนไปในทางดราม่า อย่างใกล้ชิด ซึ่งเปสคอฟ บอกว่า ขอบคุณพระเจ้าที่ยังไม่ได้ไปไกลเกินจากแถลงการณ์ ก่อนสำทับว่า “เราอยู่ในเขตอาร์กติก และเราจะอยู่ที่นั่นต่อไป” แต่ยืนยันว่า รัสเซียพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศในโลกนี้ เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพ
ด้าน วลาดิมีร์ บาร์บิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเดนมาร์ก ย้ำว่า รัสเซียมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพในอาร์คติก และเตือนว่า ความพยายามกระชับความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ บนความเดือดร้อนของประเทศอื่น จะถูกรัสเซียนำมาพิจารณาในการวางแผนทางทหาร พร้อมย้ำว่า ชะตากรรมของเกาะกรีนแลนด์ ควรให้ประชาชนบนเกาะเป็นผู้กำหนดภายในกรอบกฎหมายปัจจุบันของเดนมาร์ก โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก
ส่วน ดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคง และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย เป็นอีกคนที่ให้ความเห็นแผนการของทรัมป์ ว่า เกินขอบเขตและบิดเบี้ยว ไม่มีทางเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
ที่เดนมาร์ก นายกรัฐมนตรี เมตเต เฟรเดริกเซน ได้เรียกประชุมแกนนำพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงผู้แทนสองคนจากกรีนแลนด์ เข้าร่วมประชุมเมื่อเย็นวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น (9 มกราคม) เพื่อแจ้งว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรบ้างกับความต้องการของทรัมป์ การประชุมใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง แต่ไม่มีรายละเอียดออกมามากนัก นอกจากที่นายกฯ เฟรเดริกเซน บอกนักข่าวว่า ทีมงานของเธอได้ติดต่อไปที่ทรัมป์แล้ว แต่ทั้งสองยังไม่มีโอกาสพูดคุยกัน และคิดว่าจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบเป็นรูปเป็นร่าง จนกว่าทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ผู้นำหญิงของเดนมาร์ก กล่าวด้วยว่า เธอไม่เชื่อว่าทรัมป์ จะพยายามใช้กำลังยึดเดนมาร์กอย่างที่พูด เพราะยังไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อแบบนั้น ขณะที่ มอร์เตน เมสเซอร์ชมิดท์ ผู้นำพรรคประชาชนเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพรรคเอียงขวา กล่าวหลังการประชุมว่า เขามั่นใจว่า รัฐบาลต้องการทำงานใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความสำคัญที่สุดทางเศรษฐกิจและการปกป้องประเทศ
วันเดียวกัน บรรดาพันธมิตรการเมืองของทรัมป์ในสหรัฐฯ อย่าง คีธ เคลล็อก ว่าที่ทูตพิเศษไกล่เกลี่ยสงครามรัสเซีย-ยูเครน กล่าวว่า เหตุผลของทรัมป์เรื่องที่ต้องได้เกาะกรีนแลนด์นั้น มีเหตุผล และจะทำให้สหรัฐฯอยู่ในสถานะผู้นำโลก ส่วน ไมค์ วอลซ์ ที่ทรัมป์เสนอชื่อเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ บอก ฟอกซ์ นิวส์ ว่ากรีนแลนด์ ไม่ใช่แค่เกาะกรีนแลนด์ แต่หมายถึงอาร์กติก เพราะรัสเซียกำลังเข้าครอบครองภูมิภาคขั้วโลกเหนือที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติ