คนร้ายลอบวางบึ้ม ข้างโรงพักปัตตานี ทำอส.บาดเจ็บ 3 ราย
ข่าวที่น่าสนใจ
13 ม.ค. 68 เมื่อเวลา 08.10 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิด ภายในซอยทีเคปาร์ค ถนนปัตตานีภิรมย์ ต.อาเนาะรู ใกล้กับ สภ.เมืองปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย เป็น อส.เมืองปัตตานี ถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี อาการปลอดภัย หลังได้รับแจ้งได้ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาที่เกิดเหตุพร้อมปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้นติดกันประมาณ10 ห้องซึ่งจุดที่คนร้ายนำระเบิดมาวางไว้อยู่บริเวณหน้า หจก.แนคล์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ตรวจสอบพบซากรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาประกอบระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ รวมไปถึงชิ้นส่วนระเบิดเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดทำให้ประตูเหล็กของห้างร้านเป็นรูได้รับความเสียหายรวมไปถึงกระจกตัวอาคารหลายหลัง แตกเสียหายสะเก็ดระเบิดยังไปถูกรถยนต์ที่จอดไว้ได้รับความเสียหาย จำนวน 5 คัน รวมไปถึงกระจกตัวอาคารทีเคปาร์คแตกเสียหายไปด้วย
จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าโรงพักและบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้าทีเคปาร์ค ปรากฏว่า คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้สะเก็ดระเบิดถูก อส. ที่กำลังดูแลความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังทำให้ทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายไปทั่วบริเวณ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนเข้าไปเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุรวมและจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า ช่วงเวลา 07.00 น. วันนี้ (13 ม.ค.) ได้มีคนร้ายได้ขับรถรถจักรยานยนต์เข้ามาทางด้านหลังทีเคปาร์ค ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ที่ซุกระเบิดมาจอดไว้ จากนั้นคนร้ายจึงได้เดินกลับไปทางเดิม เชื่อว่าน่าจะมีเพื่อนมารอรับปากทางก่อนจะขับรถหลบหนีไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดตรวจสอบ และทำการปิดพื้นที่เส้นทางเข้าออกทุกมุมเมือง เชื่อว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ ซึ่งสาเหตุเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะเป็นช่วงโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับหัวหน้าโรงพัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น