ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติที่สร้างสมดุลระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่โลกเผชิญกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ไม่เพียงแต่รักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมในการปกป้องระบบนิเวศที่ดี และสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งในวันที่ 14 มกราคมนี้ ตรงกับวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แห่งชาติ ย้ำเตือนถึงความสำคัญและประโยชน์ของป่าไม้
ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรระดับโลกอย่าง “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ” ที่มีฐานผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลก และส่งออกสินค้ามากกว่า 40 ประเทศ นำแนวคิด “Kitchen of the World with Sustainovation” ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทเทคโนโลยีการเกษตร (Agri Tech) ที่มีการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่การผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอน สร้างและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ตลอด 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ ซีพีเอฟตระหนักและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยกิจการของซีพีเอฟทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เดินหน้ามีส่วนร่วมในการคืนพื้นที่สีเขียว รักษาสมดุลธรรมชาติ สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน เช่น การทำฟาร์มอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การประกาศนโยบายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า การจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อไม่ให้มาจากแหล่งที่มีการทำลายป่า สนับสนุนการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ทำงานร่วมกับชุมชนและให้ความรู้ชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ซึ่งแนวทางเหล่านี้ นอกจากส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาวด้วย
การดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมในไทย มี “โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง” ที่ต.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการต้นแบบของการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่สำคัญ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างซีพีเอฟ หน่วยงานภาครัฐโดยกรมป่าไม้ และชุมชน อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำไปแล้ว 7,000 ไร่ หรือคิดเป็นจำนวนต้นไม้ที่ปลูกมากกว่า 1.3 ล้านต้น “โครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” เป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าชายเลน พื้นที่ 5 จังหวัดยุทธศาสตร์ (สมุทรสาคร ระยอง ชุมพร สงขลา และพังงา) รวม 2,400 ไร่ หรือคิดเป็นจำนวนต้นไม้ที่ปลูกมากกว่า 1.2 ล้านต้น โดยร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และชุมชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีโครงการรักษ์นิเวศ ปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการของซีพีเอฟทั่วไทย ที่ดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันมีเป้าหมายเปลี่ยนพื้นที่ว่างในฟาร์มเป็นพื้นที่สีเขียว เสมือนป่าเลียนแบบธรรมชาติในฟาร์ม รวมไปถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการอนุรักษ์และปลูกต้นไม้ในพื้นที่ต่างๆ
นอกจากนี้ ด้วยตระหนักว่าพลังของคนรุ่นใหม่ ที่จะสามารถเข้ามาสานต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา ซีพีเอฟกิจการในประเทศไทย จึงได้ดำเนินโครงการ “ปันรู้ ปลูกรักษ์” ส่งเสริมให้เยาวชนในสถานศึกษา มีความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าไม้ อากาศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ตื่นตัวและมีส่วนร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูธรรมชาติ ให้คงอยู่ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เข้าถึงเยาวชน 13,840 คน ใน 87 โรงเรียน 22 จังหวัด โดยที่ซีพีเอฟพร้อมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว คืนสมดุลระบบนิเวศ ฟื้นฟูธรรมชาติ และสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนความยั่งยืนของโลก เดินหน้าผลิตอาหารที่ดีต่อกาย ดีต่อใจ และใส่ใจต่อโลก