"ตร.ทางหลวงเมืองกรุงเก่า" จับเมียนมา ขนเพื่อนร่วมชาติส่งทำงานในไทย สารภาพสิ้นทำมานาน 1 ปี วิ่งรถกว่า 100 เที่ยว
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อหยุดรถได้ ที่บริเวณถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วง หลักกิโลเมตรที่ 47 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา มี นาย ซอ เซ ลินนาย (Mr.SAW SHWE LIN NAING) อายุ 39 ปี สัญชาติ เมียนมา เป็นคนขับ และมี น.ส.แน เซ มา (Mrs.NAN SANAY MA) อายุ 32 ปี สัญชาติ เมียนมา ภรรยาคนขับ นั่งโดยสารมาข้างคนขับ ตรวจสอบภายในรถ พบแรงงานต่างด้าวจำนวน 10 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 5 คน นั่งอัดแน่นอยู่ภายในรถ โดยมีการถอดเบาะออกทั้งหมด แล้วปูเสื่อนั่งอัดกันอยู่ในรถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยาร่วมตรวจสอบ พบว่า นาย ซอ เซ ลินนาย คนขับ และแฟนสาว มีหนังสือเดินทาง แต่ แรงงานต่างด้าว 10 คน สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถาม นาย ซอ เซ ลินนาย คนขับรถ ยอมรับว่า ลงทุนถอดเบาะนั่งโดยสารภายในรถทั้งหมดออก อยากให้แรงงานต่างด้าวนั่งได้สะดวก ไม่แออัด โดยแรงานต่างด้าวที่ขนมา 10 คน รับมาจากจังหวัดชัยนาท ตระเวนส่งส่งให้กับเอเย่นต์อีกต่อหนึ่ง เพื่อไปทำงานที่พระราม 2 สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี โดยตนเองรับจ้างขนแรงงานต่างด้าวมาแล้ว ประมาณ 1 ปี เฉลี่ย 7 – 10 เที่ยว ต่อเดือน ยังไม่เคยถูกจับกุม เพิ่งจะมาถูกจับกุม ส่วนค่าจ้างจะได้คนละ 800 บาท ต่อคน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ วิ่งมาได้ 4 เที่ยว เงินที่ได้ส่วนหนึ่งทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้า ชาวม้งชาวเมียนมา ตามสถานที่ต่างๆ และวัดที่รับเลี้ยงเด็กๆ และให้ครอบครัว ส่วนอาชีพหลักของตนรับเหมาก่อสร้าง
สอบถามแรงงานต่างด้าว ผ่านล่ามให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยจะมีคนพาออกมาขึ้นรถ เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย 15,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา นาย ซอ เซ ลินนาย คนขับ และแฟนสาว ข้อหา “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ส่วนแรงงานต่างด้าว 10 คน แจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.มหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง