“ตร.-ทหาร” ร่วมวาง 4 มาตรการเข้ม แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

"ตร.-ทหาร" ร่วมวาง 4 มาตรการเข้ม แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (23ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร.) เข้าพบ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อหารือเรื่องมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทาง โดยมี เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมหารือ

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ เนื่องจาก ปัญหาการหลอกลวงบุคคลให้ไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งแรงงานไปยังประเทศที่ 3 รวมถึงปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการหลอกลวงคนไทยหรือชาวต่างชาติไปทำงาน โดยผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง หรือช่องทางธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นวงกว้าง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และเล็งเห็นความสำคัญในการร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน จึงร่วมหารือในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้แก่ประชาชน

 

 

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองทัพบก โดยขอความร่วมมือปิดกั้นเส้นทางธรรมชาติทั้งหมด เพื่อป้องกันการเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมตรวจสอบเสาสัญญาณโทรคมนาคมที่ติดตั้งโดยที่จะรับอนุญาต หรือมีความผิดปกติตามแนวชายแดน พร้อมเฝ้าระวังบุคคลมีพฤติกรรมน่าสงสัยเดินทางเข้ามากดเงินที่ตู้ atm ในประเทศไทย แล้วกลับไปตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ชายแดน รวมทั้งหารือการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่

ทั้งนี้ ในที่ประชุมเห็นพ้องว่า ในระดับพื้นที่เห็นควรใช้กลไกของศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ของจังหวัดตาก กำหนดให้ 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก เป็นพื้นที่ควบคุมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาชาวต่างชาติถูกหลอกลวงและการค้ามนุษย์ ได้แก่

 

 

1. การคัดกรองเข้าพื้นที่ อ.แม่สอด ทั้งทางถนนและทางอากาศ รวมทั้งบริเวณด่านตรวจ ให้คัดกรองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้า อ.แม่สอด อย่างเข้มข้น ซักถามวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างละเอียด หากไม่มีหนังสือรับรองจากสถานทูต หรือไม่สามารถชี้แจงวัตถุประสงค์ ไม่มีที่พัก หรือแผนการเดินทางกลับอย่างชัดเจน เห็นควรแจ้งสถานทูต และงดเว้นไม่ให้เดินทางเข้าในพื้นที่อำเภอแม่สอด และใช้มาตรการทางกฎหมายลงโทษ รถยนต์ที่รับจ้างนำพาบุคคลต่างชาติเข้าพื้นที่

2. การจำกัดการเข้าพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และผู้เกี่ยวข้อง ตั้งด่านตรวจร่วมเพิ่มเติม บริเวณเส้นทางที่จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ จ.ตาก

3. การตรวจสอบโรงแรมที่พัก โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบโรงแรมที่พักทุกแห่งใน อ.แม่สอด ที่ชาวต่างชาติเข้ามาพัก ว่าได้แจ้งข้อมูลการเข้าพักของบุคคลต่างชาติให้ทราบหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 หากไม่มีการแจ้งให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

4. การสกัดกั้น โดยบูรณาการกำลังร่วมระหว่างตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดตลอด 24 ชั่วโมง ในเส้นทางหลักและเส้นทางรองที่จะเข้าสู่ชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติลักลอบข้ามแดน

 

 

ทั้งนี้ จะมีการประชุมประเมินและติดตามการดำเนินการร่วมในการแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว.

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ศาลให้ประกันตัว "สมรักษ์ คำสิงห์" ตีวงเงิน 4 แสนบาท คดีพรากผู้เยาว์-พยายามข่มขืนสาว 17
นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯร่วมพิธีลงนาม FTA ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาล สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน
กรมโยธาธิการและผังเมือง เน้นย้ำ “มาตรการป้องกันฝุ่น” ก่อสร้างอาคาร ร่วมเดินหน้าเร่งแก้ไข PM 2.5
“เต้” เล่านิทานคืนสยองขวัญ “คนบนฝั่ง” อำนาจล้น-สั่งปิดปากคดี “แตงโม”
ผู้นำสิงคโปร์เตือนสงครามโลกหากถูกบังคับเลือกข้าง
ทหารเกาหลีเหนือพุ่งโขกเสาหนีโดนจับ
ผู้นำสหรัฐฯจี้ปูตินจบสงครามไร้สาระหรือเจอแซงชั่น
สหรัฐฯขึ้นบัญชีฮูตีองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ
DSI เข้าเรือนจำ แจ้งข้อหาเพิ่ม ‘บอสพอล-สามารถ’ สมคบร่วมฟอกเงิน
“นายกฯ” ไลน์ข้ามประเทศคุย “อนุทิน” สั่งแก้ฝุ่น PM2.5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น